คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตัดสินเกินคำขอโจทก์ฟ้องแลบรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์ในเคหะสถานในเวลาค่ำคินขอให้ลงโทษตาม ม.298 ทางพิจารณาได้ความสมตามคำพรรณาฟ้องซึ่งเป็นความผิดตาม ม.299 ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยตาม ม.299 ไม่ได้ เป็นการเกินคำขอ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๙ เวลากลางคืน จำเลยมีสาตราวุธขึ้นไปบนเรือนของ ช. แล้วขู่ ช.ให้ส่งทรัพย์แก่จำเลย แต่จำเลยกระทำการไม่สำเร็จขอให้ลงโทษตาม ม.๒๙๓-๒๙๔-๒๙๘-๓๒๙-๖๐ แล ๗๒
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมีผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน ตาม ม.๒๙๙-๖๐ แม้โจทก์มิได้อ้าง ม.๒๙๙ ก็ลงโทษจำเลยได้ เพราะข้อเท็จจริงโจทก์สืบสมตามฟ้อง แม้จะอ้างบทมาตราผิดก็ลงโทษจำเลยได้ตามประมวลพิจารณาอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรค ๔ ไม่เป็นการเกินฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๘-๙๐ ตามโจทก์ขอโดยอ้าง ม.๑๙๒ วรรค ๑ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์อ้างมาตราผิดศาลลงโทษจำเลยได้ตาม ม.๑๙๒ วรรค ๔
ศาลฎีกาเห็นว่า ม.๑๙๒ วรรค ๔ หมายถึงกรณีที่โจทก์พรรณาความผิดของจำเลยมาในฟ้องในฐานความผิดอย่างหนึ่ง แต่อ้างบทกฎหมายในฐานความผิดอีกอย่างหนึ่ง ศาลลงโทษจำเลยในฐานความผิดที่ถูกได้ แต่คดีนี้โจทก์พรรณาความผิดมาในฐานชิงทรัพย์แลอ้างบทมาตราฐานชิงทรัพย์มาขอให้ลงโทษเป็นเรื่องอยู่ในฐานเดียวกัน จะถือว่าอ้างฐานความผิดผิดไปไม่ได้ ไม่ต้องด้วยความหมายแห่ง ม.๑๙๒ วรรค ๔ แลเห็นว่าการจะลงโทษตาม ม.๒๙๙ ซึ่งมีอัตราโทษหนักกว่าเป็นการเกินคำขอโจทก์ต้องห้ามตามมาตรา ๑๙๒ วรรค ๑ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share