คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องจะต้องขอเฉลี่ยภายในสิบสี่วันนับแต่วันขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ศาลชั้นต้นขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยไปในวันที่ 10 มีนาคม 2509 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งที่ให้ขายทอดตลาดทรัพย์ของศาลชั้นต้น จึงต้องถือว่าวันขายทอดตลาดทรัพย์คือวันที่ 10 มีนาคม 2509 แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2509 จึงเกินกำหนดเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นขอเฉลี่ยได้

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยขายทอดตลาด จำเลยร้องขอให้มีการขายใหม่อ้างว่าราคาที่ขายได้ต่ำไป ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้จากการขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า คำร้องนี้ยื่นหลังสิบสี่วันนับแต่วันขายทอดตลาดจึงให้ยก
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในกรณีที่ยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องจะต้องขอเฉลี่ยภายในสิบสี่วันนับแต่วันขายทอดตลาด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งที่ให้ขายทอดตลาดทรัพย์ของศาลชั้นต้น จึงต้องถือว่าวันขายทอดตลาดทรัพย์ คือวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๐๙ แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๐๙ จึงเกินกำหนดเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นขอเฉลี่ยได้
พิพากษายืน ยกฎีกาผู้ร้อง

Share