แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความในประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.2489 ฉบับที่ 98 พ.ศ.2517 นั้นเห็นได้ชัดว่าที่จะถือได้ว่าผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าวจะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้รับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่างๆ ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางเป็นข้าวสารที่มีความเป็นมาดังกล่าวแล้ว ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมกันประกอบการค้าข้าวในท้องที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และได้ร่วมกันรับซื้อข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกแก่ประชาชนจำนวน 130 กระสอบหนักประมาณ 13,000 กิโลกรัม ซึ่งมีปริมาณตั้งแต่200 กิโลกรัมขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ซึ่งได้ออกให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทุกประเภทในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรต้องขออนุญาตประกอบการค้าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8(4) แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้ออกประกาศห้ามบุคคลใด ๆในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ทำการรับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกประชาชนมีปริมาณตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 8, 9, 17, 18 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 4, 5, 10, 11, 12ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ฉบับที่ 98 ลงวันที่ 6 กันยายน 2517 และฉบับที่ 103 ลงวันที่ 5 กันยายน 2518 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวพ.ศ. 2489 มาตรา 8, 17 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2489 มาตรา 10 ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ฉบับที่ 98 ลงวันที่ 6 กันยายน 2517 ให้จำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนดหกเดือน ของกลางริบ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความในประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ฉบับที่ 98 พ.ศ. 2517 ที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยที่ 1 กระทำการฝ่าฝืนอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวมีว่าห้ามบุคคลใด ๆ ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการทำการรับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายใน หรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน มีปริมาณตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป เห็นได้ชัดว่าที่จะถือว่าผู้ใดทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้รับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสาร หรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน สำหรับข้อหาของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางซึ่งร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกได้รับไปเพื่อจำหน่ายปลีกแก่ประชาชน และมีผู้ซื้อหรือได้ข้าวสารนั้นมาจากร้านค้าย่อยเช่นว่านั้น แล้วจำเลยที่ 1 ได้รับซื้อข้าวสารนั้นไว้จากผู้ที่ได้ซื้อหรือได้รับมานั้นอีกทีหนึ่งแต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางเป็นข้าวสารที่มีความเป็นมาดังกล่าวเลยจึงฟังว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าวอันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติการค้าข้าว โดยได้ซื้อข้าวสารของกลางที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการกำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกแก่ประชาชนตามฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ในข้อหานี้ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหากระทำการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ฉบับที่ 98พ.ศ. 2517 ด้วยของกลางคืนจำเลยที่ 1