คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระ จึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาทตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 7,000 บาท จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กู้วันชี้สองสถานโจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้เงินไป 6,000 บาท ครบกำหนด 10 เดือนไม่ชำระจึงทำสัญญาใหม่รวมดอกเบี้ยและเพิ่มล่วงหน้าที่ขอผลัดอีก 2 เดือนรวมเป็น 7,000 บาทตามฟ้อง จำเลยให้การแก้ฟ้องเพิ่มเติมคงปฏิเสธดังเดิม

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกู้โจทก์ดังฟ้อง แต่เงินกู้ควรเป็น 6,750 บาท ที่เรียกดอกเบี้ยล่วงหน้า 250บาททบต้นนั้น ไม่มีมูลเรียกได้ตามกฎหมายพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน โจทก์ดังกล่าว

จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องเคลือบคลุมและเอกสารสัญญากู้การขีดฆ่าอากรแสตมป์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาปรึกษาว่าปัญหาเรื่องฟ้องเดิมของโจทก์ที่จำเลยเถียงว่าฟ้องเดิมของโจทก์กับฟ้องเพิ่มเติมขัดแย้งกันเองจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมศาลบังคับให้ไม่ได้นั้นหาเป็นดังข้อเถียงของจำเลยไม่เพราะฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์เป็นข้ออธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ให้เห็นว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังนั้นมีที่มาอย่างไรต่างหากหาใช่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยใช้เงินทั้งสองจำนวนตามสัญญาฉบับเก่าและฉบับใหม่ไม่

ส่วนเรื่องการขีดฆ่าอากรแสตมป์ที่จำเลยโต้เถียงว่าเอกสารสัญญากู้ที่โจทก์ฟ้องการขีดฆ่าไม่ถูกต้องก็ฟังไม่ได้ ดังมีคำพิพากษาฎีกาเป็นบันทัดฐานตามที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างนั้นแล้ว(ฎีกาที่ 561/2487) ศาลฎีกาจึงเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

Share