คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จำเลยจะอ้างเหตุป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ให้พ้นผิดหาได้ไม่ แต่ศาลอาจใช้ดุลพินิจวางโทษจำเลยในสถานเบาได้
ในการวิวาทต่อสู้กันอาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายยาวทั้งด้ามทั้งตัวเพียง 1 คืบเศษ และบาดแผลซึ่งผู้เสียหายถูกแทงที่สำคัญอาจถึงตายได้คงมีแผลเดียวดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8) เท่านั้นหาใช่ผิดตาม มาตรา 249-60 ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพกแทงผู้เสียหายมีบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัสโดยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายแต่หากมีราษฎรเข้าขัดขวางผู้เสียหายจึงไม่ถูกแทงจนถึงตาย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายอาญา มาตรา 256,249, 60

จำเลยให้การรับว่าใช้มีดแทงจริงแต่เพื่อป้องกันตัว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 249, 60ให้จำคุก 10 ปี

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเชื่อว่าเป็นเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกัน เมื่อเป็นเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันจำเลยจะยกเหตุป้องกันตัวเป็นข้อให้พ้นผิดหาได้ไม่ แต่ศาลอาจใช้ดุลยพินิจวางโทษจำเลยในสถานเบาโดยพิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น

การกระทำของจำเลยแก่ผู้เสียหายเป็นความผิดฐานประทุษร้ายแก่ร่างกายอย่างสาหัสนั้นฟังได้อย่างไม่มีข้อสงสัย และข้อเท็จจริงดังได้วินิจฉัยรับฟังมาแล้วว่าการทำร้ายกันนี้เกิดจากความสมัครใจวิวาทต่อสู้กันต่างฝ่ายย่อมฉวยโอกาสทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง การใช้มีดแทงเข้าปะทะพัลวันทำร้ายซึ่งกันและกันนั้น เป็นการยากจะยับยั้งใช้มีดแทงให้หนักเบาแค่ไหนตามประสงค์ ย่อมมีการผิดพลาดกระทำหนักเบาไปบ้างโดยไม่เจตนา อาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายในคดีนี้ก็มีขนาดยาวทั้งด้าม ทั้งตัวเพียง 1 คืบเศษ นับว่าเป็นอาวุธมีดขนาดย่อมซึ่งเห็นไม่ได้ว่าจะยังผลให้ผู้ถูกแทงเป็นอันตรายถึงตายได้โดยธรรมดา ความผิดของจำเลยยังไม่ต้องด้วยกฎหมายอาญามาตรา 249, 60 ฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา

จึงพิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 256(8) ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี

Share