คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ที่ตัดฟันต้นสักเป็นที่ป่าอยู่แล้วมีผู้เข้ามาถากถางทำการเพาะปลูกถั่วงาพืชล้มลุกชั่วฤดูคราว โดยยังไม่ได้รับหนังสือสำคัญเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด เช่นนี้ยังเรียกไม่ได้ว่าผู้นั้นได้มาซึ่งที่ดินอันมีต้นสักนั้นตามกฎหมายที่ดิน ฉะนั้นจึงต้องถือว่าเป็นป่าตามกฎหมายป่าไม้ ผู้ใดไม่มีสิทธิจะตัดฟันไม้สักในที่นั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานได้

ย่อยาว

คดี 6 สำนวนนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกันมา โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยตัดฟันไม้สักในป่า และชักลากเคลื่อนที่ไปไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำปิงโดยมิได้รับอนุญาต ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายผัน นายนาค จำเลยในคดีดำที่ 70, 71, 72, 73 และนายยาจำเลยคดีดำที่ 71 มีความผิดฐานตัดฟันไม้สักตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 73 ฯลฯ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้ง 6 สำนวนฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ที่ตัดฟันไม้สักเป็นที่ป่าอยู่แล้ว จำเลยมาถากถางทำการปลูกถั่วงาพืชล้มลุกชั่วฤดูคราว ส่วนต้นไม้สักเว้นไว้และนางขำ นายชวน นายชิน นางส้มเช้า จำเลย ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ขายต้นสักนั้นให้นายผันจำเลยทำการตัดฟัน แม้จำเลยจะทำการปลูกพืชดังกล่าวมานาน ที่ป่านั้นก็หากลายเป็นที่ของจำเลยไม่ ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share