คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่โจทก์ฟ้องขอให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองแต่ผู้เดียวใน น.ส.3 ที่พิพาทเป็นคำขอเพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนที่พิพาทเป็นของโจทก์ แต่เจ้าพนักงานที่ดินเป็นบุคคลภายนอก และกรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่ให้คำพิพากษาของศาลมีผลผูกพันบุคคลภายนอกที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 ศาลจึงไม่อาจสั่งเพื่อบังคับเจ้าพนักงานที่ดินให้กระทำการตามที่โจทก์ประสงค์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมที่พิพาทเป็นของนายทิม พานิชนอกหรือพาณิชย์และติดจำนองกับสหกรณ์การเกษตรอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาก่อนนายทิมถึงแก่กรรมได้ยืมเงินนางพรม ประจิตร์ 2,000 บาทต่อมานางพรมฟ้องนางเต่าและทายาทนายทิมให้ชำระหนี้ดังกล่าวหลังจากนางเต่าและทายาทได้ชำระหนี้แล้วก็ได้ขายที่พิพาทให้โจทก์โดยให้โจทก์ไถ่ถอนจำนองเอง โจทก์ไถ่ถอนจำนองแล้วแต่ไม่ได้จดทะเบียนเพราะชื่อในทะเบียนเป็นของนายทิม เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2527 จำเลยทั้งสองได้บุกรุกเข้าทำนาในที่พิพาทโดยจำเลยที่ 1 อ้างว่ารับมรดกมาจากบิดา และลักลอบโอนที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารออกจากที่พิพาท ห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป และให้เพิกถอนนิติกรรมการรับโอนมรดกของจำเลยที่ 1 แล้วใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครองใน น.ส. 3 ที่พิพาท จำเลยทั้งสองให้การว่า เดิมที่พิพาทเป็นของนายทิมบิดาจำเลยที่ 1กับนางเต่า และได้จำนองไว้กับสหกรณ์การเกษตรอำเภอบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา ต่อมานายทิมได้ยืมเงินโจทก์ 20,000 บาทโดยตกลงให้โจทก์ทำกินในที่พิพาทเป็นการชำระหนี้เป็นเวลา 10 ปี และให้โจทก์ไถ่ถอนจำนองด้วยนางเต่าไม่เคยขายที่พิพาทให้โจทก์ เมื่อครบกำหนดตามที่ตกลงและนายทิมถึงแก่กรรมแล้ว จำเลยทั้งสองก็ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาท และจำเลยที่ 1 ได้ทำเรื่องราวขอรับมรดกที่พิพาท โจทก์ทราบแต่ไม่คัดค้านและคดีโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประเด็นข้อสุดท้ายมีว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อถูกฝ่ายจำเลยแย่งการครอบครองเกินกว่า 1 ปี แล้วหรือไม่ข้อนี้ได้ความจากคำเบิกความของจำเลยที่ 1 ที่เบิกความไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 271/2527 ของศาลจังหวัดนครราชสีมา (อำเภอบัวใหญ่)ว่าฝ่ายจำเลยได้เข้าไปทำนาที่พิพาทอีก เมื่อประมาณวันที่ 23มิถุนายน 2527 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2528 ยังไม่เกิน1 ปี จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้ กล่าวโดยสรุปคดีฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น แต่ที่โจทก์ขอให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองแต่ผู้เดียวใน น.ส. 3 เลขที่ 34 นั้น เห็นว่า เป็นคำขอเพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์แต่เจ้าพนักงานที่ดินเป็นบุคคลภายนอก และกรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่ให้คำพิพากษาของศาลมีผลผูกพันบุคคลภายนอกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ศาลจึงไม่อาจสั่งเพื่อบังคับเจ้าพนักงานที่ดินให้กระทำการตามที่โจทก์ประสงค์ได้
พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารออกจากที่พิพาท และห้ามจำเลยทั้งสองเข้าเกี่ยวข้องต่อไป ให้เพิกถอนนิติกรรมโอนมรดกของจำเลยที่ 1 ใน น.ส. 3 เลขที่ 34 ตำบลโพนทอง(น.ส.3 ระบุว่าตำบลกุดจอก) อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมายกคำขอที่ขอให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครองใน น.ส. 3 เลขที่ 34”

Share