คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเข้าถากถางและปลูกพืชในที่ดินซึ่งโจทก์ได้ร้องขอจับจองและได้รับใบจองแล้ว แม้โจทก์จะยังไม่ได้เข้าครอบครองและไม่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นการละเมิดสิทธิในอันที่จะเข้าทำประโยชน์ในที่นั้นของโจทก์แล้ว จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าถากถางและปลูกพืชในที่ดินของโจทก์ ขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท

จำเลยให้การว่า จำเลยซื้อที่พิพาทมาจากผู้มีชื่อ โจทก์ขอจับจองที่ข้างที่ของจำเลย ๆ คัดค้านไว้แล้ว แม้ฟังว่าโจทก์ได้จับจอง โจทก์ก็มิได้เข้าครอบครองและไม่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์ ไม่เกิดการเสียหาย

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ได้ร้องขอจับจองที่พิพาทและได้รับใบจองแล้ว จำเลยเข้าแผ้วถางปลูกพืชจึงเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวาร กับให้ใช้ค่าเสียหาย 500 บาท

จำเลยฎีกาว่า โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ไม่ควรได้รับค่าเสียหาย

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้ร้องขอจับจองที่พิพาท และได้รับใบจองแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิที่จะเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาท การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปแผ้วถางทำประโยชน์ได้ชื่อว่าเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ และจำเลยต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 โจทก์หาจำต้องเข้าครอบครองและมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทไม่

พิพากษายืน

Share