แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องตั้งราคาทรัพย์สินที่พิพาทเพียง 1,000 บาท จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านในเรื่องราคาทรัพย์ที่พิพาทประการใด ในชั้นอุทธรณ์จำเลยขอตีราคาทรัพย์สินที่พิพาทเพิ่มขึ้นเป็น 2,100 บาท แต่มิได้ยกเหตุผลให้เห็นว่าทุนทรัพย์ที่พิพาทมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเพราะเหตุหนึ่งเหตุใดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 วรรคสาม ทั้งโจทก์ก็ได้คัดค้านไว้แล้ว และศาลก็ยังหาได้อนุญาตให้ราคาทรัพย์ที่พิพาทเพิ่มขึ้น ฉะนั้น จึงต้องถือว่าคดีมีทุนทรัพย์เท่าเดิม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นคู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องตั้งราคาทรัพย์สินที่พิพาทเพียง 1,000 บาทจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านในเรื่องราคาทรัพย์ที่พิพาทประการใด ฉะนั้นในชั้นอุทธรณ์ฎีกาศาลก็ต้องถือว่าคดีมีทุนทรัพย์เท่าเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 การที่จำเลยขอตีราคาทรัพย์สินที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 บาทนั้น จำเลยมิได้ยกเหตุผลให้เห็นว่าทุนทรัพย์ที่พิพาทมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเพราะเหตุหนึ่งเหตุใด ดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 วรรค 3 ทั้งโจทก์ก็ได้คัดค้านไว้แล้วและศาลก็ยังหาได้อนุญาตให้ราคาทรัพย์พิพาทเพิ่มขึ้นดังที่จำเลยตีมาไม่ คดีของจำเลยจึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะเป็นคดีมีทุนทรัพย์เพียง 1,000 บาท
จึงพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย