คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่หนักงานอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดหลายอย่างทั้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน เมื่อไม่ปรากฎ++ฟ้องโดยชัดเจนว่าความผิดต่อส่วนตัวนั้นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว แม้จะกล่าวในฟ้องว่าได้มีการสอบสวนแล้วก็ตามศาลจะรับพิจารณาความผิดต่อส่วนตัวนั้นมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าบุกรุกทำร้ายร่างการและชิงทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานบุกรุกกะทงหนึ่ง ฐานทำร้ายร่างกายอีกกะทงหนึ่งรวมโทษ ๗ เดือน
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า ความผิดฐานบุกรุกโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ ส่วนความผิดฐานทำร้ายร่างกายไม่เชื่อพะยานโจทก์ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทกฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าความผิดฐานทำร้ายร่างกายนั้นเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่วนความผิดฐานบุกรุกนั้นเห็นว่าเรื่องนี้อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่าทำผิดหลายอย่างทั้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าสอบสวนแล้วก็ฟังเป็นแน่มิได้ว่าได้มีการร้องทุกช์ ในเรื่องบุกรุกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ศาลจะรับพิจารณาให้มิได้ ที่โจทก์กล่าวว่าในฟ้องปรากฏว่าได้มีการสอบสวนแล้วซึ่งแสดงว่ามีการร้องทุกข์ในเรื่องความผิดต่อส่วนตัวนั้นก็ไม่ชัดเจน เพราะโจทก์มิได้เพิ่มเติมในแบบพิมพ์ฟ้องให้เห็นว่ามีความผิดส่วนตัวรวมอยู่ด้วย ฟ้องของโจทก์ยังปรากฏคำว่า ” ความอาญาแผ่นดิน ” อยุ่อย่างเดียว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share