แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯได้มีมติอนุญาติให้ผู้เช่า เข้าอยู่ในบ้าน ซึ่งผู้เช่า เช่าอยู่ตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันมาตรา 16(6) แล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า จะมารื้อฟื้นข้อเถียงว่า ผู้ให้เช่าไม่มีความจำเป็นจะเข้าอยู่ในที่เช่า คณะกรรมการออกคำสั่งโดยหลงผิดนั้น ไม่เป็นเหตุที่ศาลควรรับวินิจฉัย ในเมื่อไม่ปรากฎว่าคณะกรรมการได้กระทำนอกเหนือความใน พ.ร.บ.ที่กล่าวแต่อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ให้โจทก์เข้าอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ได้
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เรือนหลังนี้ แม้คณะกรรมการการควบคุมค่าเช่าได้อนุมัติก็เนื่องจากโจทก์ไปให้การเท็จไว้ เพื่อจะแกล้งขึ้นค่าเช่า และเรียกเงินกินเปล่าจากจำเลย เฉย ๆ ขอนำสืบตามชื่อต่อสู้
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาขับไล่จำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ แต่มีความเห็นแย้งว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้ว
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้มีมติอนุญาติให้โจทก์เข้าอยู่ในบ้าน ซึ่งจำเลยเช่าตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาตรา ๑๖(๖) แล้ว จำเลยไม่ยอมออกจากที่เช่า จะมารื้อฟื้นเถียงว่าโจทก์ไม่มีความจำเป็นจะเข้าอยู่ในที่รายนี้ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ออกคำสั่งโดยหลงผิดเช่นนี้ ไม่เป็นเหตุที่ควรรับวินิจฉัย ในเมื่อไม่ปรากฎว่าคณะกรรมการได้กระทำนอกเหนือความใน พ.ร.บ.ที่กล่าวแต่อย่างใด
จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาในประเด็นค่าเสียหายต่อไป