แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขันกับ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว และ พระราชบัญญัติการค้าข้าวมีวัตถุประสงค์คนละอย่าง หาได้ขัดแย้ง หรือทับกันไม่ ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานซึ่งออกอาศัยอำนาจ พระราชบัญญัติ ฉบับไหน ก็ต้องมีผิดตามพระราชบัญญัติ ฉบับนั้น
จำเลยขนย้ายรำจากจังหวัดนอกเขตกักกันข้าว พาผ่านจังหวัดอันเป็นเขตกักกันข้าว ออกไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ไม่มีผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (อ้างฎีกาที่506-507/2491)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขนย้ายรำ ออกนอกเขตจังหวัดสมุทรสงครามไปยังจังหวัดเพ็ชรบุรีโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยซื้อรำรวม 10 หาบจากจังหวัดราชบุรีโดยมิได้รับอนุญาตแล้วขนผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อจะไปจังหวัดเพ็ชรบุรี พอถึงตำบลแหลมใหญ่ จังหวัดสมุทรสงคราม ก็ถูกจับ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้องเพราะเป็นการขนผ่าน ไม่ใช่ขนย้ายออกจากจังหวัดสมุทรสงครามดังโจทก์ฟ้องพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพระราชบัญญัติสำรวจและและห้ามกักกันข้าว และพระราชบัญญัติการค้าข้าว ออกทับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคเสียแล้ว จำเลยจึงไม่มีผิด พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ กับ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว และพระราชบัญญัติการค้าข้าวมีวัตถุประสงค์คนละอย่าง หาขัดแย้งหรือทับกันไม่ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานซึ่งออกอาศัยอำนาจ พระราชบัญญัติฉบับไหน ก็ต้องมีผิดตามพระราชบัญญัติฉบับนั้น และคดีนี้ จำเลยขนรำของกลางออกจากเขตจังหวัดราชบุรี ผ่านเขตจังหวัดสมุทรสงครามไม่ใช่ขนรำที่มีอยู่ในเขตกักกันจังหวัดสมุทรสงครามออกไปจากเขตจังหวัดสมุทรสงคราม ดังประกาศและฟ้องของโจทก์
พิพากษายืน