คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ลงลายมือชื่อทราบคำสั่งศาลที่ให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความชั่วคราว หากคดีอาญาของ ศาลแขวงธนบุรี ศาลพิพากษาเสร็จแล้ว ให้โจทก์แถลงเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปภายใน 15 วัน มิฉะนั้นศาลจะไม่ ยกคดีขึ้นพิจารณา โจทก์จึงทราบและมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าว โจทก์ทราบคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดังกล่าว โดยโจทก์ได้ไปฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง แต่โจทก์กลับมิได้ดำเนินการแถลงต่อศาลภายในกำหนด ระยะเวลาตามคำสั่งศาลแต่อย่างใด เพิ่งมายื่นคำร้องต่อศาลให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป ซึ่งเป็นระยะเวลาเนิ่นนานหลังจากทราบคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วประมาณ 6 เดือน แสดงว่าโจทก์ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจปฏิบัติตามคำสั่งศาล ทั้งคำสั่งศาลดังกล่าวก็ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้ กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรยกคดีขึ้นพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินที่ยักยอกไปพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๓๖ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าคดีนี้เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หมายเลขดำที่ ๑๓๔๘/๒๕๓๙ ของศาลแขวงธนบุรี ขอให้ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเพื่อรอผล การพิจารณาพิพากษาคดีส่วนอาญา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๑ โจทก์ยื่นคำร้องว่า ศาลแขวงธนบุรีได้อ่านคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวของศาลฎีกา เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๔๑ แต่ทนายโจทก์ไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบ โจทก์เพิ่งทราบเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๑ จึงไม่สามารถแถลงเพื่อให้ศาลหยิบยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปได้ภายในกำหนด ๑๕ วัน ขอให้ศาลชั้นต้นหยิบยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่ง ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองไม่แก้อุทธรณ์ จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า โจทก์ได้ลงลายมือชื่อทราบคำสั่งศาลที่ให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบ ความชั่วคราว หากคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๓๔๘/๒๕๓๔ ของศาลแขวงธนบุรี ศาลพิพากษาเสร็จแล้ว ให้โจทก์แถลงเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปภายใน ๑๕ วัน มิฉะนั้นศาลจะไม่ยกคดีขึ้นพิจารณา ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์จึงทราบและมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าว ได้ความว่าโจทก์ทราบคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๔๑ โดยโจทก์ได้ไปฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลแขวงธนบุรี โจทก์กลับมิได้ดำเนินการแถลงต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งศาลแต่อย่างใด และเพิ่งมายื่นคำร้องต่อศาลให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๑ ซึ่งเป็นระยะเวลาเนิ่นนานหลังจากทราบคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว ประมาณ ๖ เดือน แสดงว่าโจทก์ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจปฏิบัติตามคำสั่งศาล ทั้งคำสั่งศาลดังกล่าวก็ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้โดยโจทก์ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในกฎหมายแต่อย่างใด ข้ออ้างของโจทก์ว่าไม่เข้าใจความหมายของคำสั่งศาลจึงไม่อาจรับฟังได้ กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรยกคดีขึ้นพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

Share