คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

หนี้ค่าชดเชยเป็นหนี้ที่กำหนดไว้ในข้อ 46 ของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ให้นายจ้างต้องจ่ายแก่ลูกจ้างประจำซึ่งเลิกจ้าง หมายความว่านายจ้างเลิกจ้างวันใด นายจ้างย่อมมีหนี้ตามกฎหมายถึงกำหนดชำระแก่ลูกจ้างในวันที่เลิกจ้าง อันเป็นวันแห่งปฏิทิน ลูกจ้างหาจำต้องทวงถามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรคสองไม่ เมื่อนายจ้างไม่จ่ายย่อมได้ชื่อว่าผิดนัดชำระหนี้นับแต่วันเลิกจ้างต้องรับผิดเสีย ค่าดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

ย่อยาว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์แต่ละสำนวนพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทุกสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประการสุดท้ายที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก่อนฟ้องโจทก์มิได้ให้คำเตือนหรือทวงถามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรคแรก จำเลยยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด จึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในค่าชดเชยแก่โจทก์นั้น เห็นว่า หนี้ค่าชดเชยเป็นหนี้ที่กำหนดไว้ในข้อ 46 ของประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ให้นายจ้างต้องจ่ายแก่ลูกจ้างประจำซึ่งเลิกจ้างหมายความว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์วันใดจำเลยย่อมมีหนี้ตามกฎหมายถึงกำหนดชำระแก่โจทก์ผู้เป็นลูกจ้างในวันที่เลิกจ้าง อันเป็นวันแห่งปฏิทิน โจทก์หาจำต้องทวงถามไม่ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 204 วรรคสอง เมื่อจำเลยไม่จ่ายย่อมได้ชื่อว่าผิดนัดชำระหนี้นับแต่วันเลิกจ้างซึ่งจำเลยต้องรับผิดเสียค่าดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 หาใช่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยไม่”

พิพากษายืน

Share