คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินมีโฉนดเป็นของหญิงมาก่อนแต่งงานกับชาย และเมื่อแต่งงานกันแล้ว ก็มิได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้อง ดังนี้แม้ชายจะได้ช่วยบำรุงที่ดินนั้นให้มีราคาสูงขึ้นในระหว่างที่อยู่กินกับหญิง ชายก็หามีสิทธิที่จะฟ้องขอแบ่งที่ดินนั้นได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 1310-1314 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยแต่งงานกันแต่จำเลยไม่ไปจดทะเบียนสมรส จนเกิดบุตรด้วยกัน 3 คน จำเลยก็ไม่ยอมไปจดทะเบียน เมื่อก่อนแต่งงานบิดาจำเลยได้ซื้อที่ดิน 1 แปลงให้จำเลย แล้วโจทก์จำเลยได้ช่วยกันลงทุนลงแรงแผ้วถางทำเป็นสวนผลไม้ เวลานี้มีราคา 20,000 บาท บัดนี้จำเลยบอกเลิกร้างไม่ยอมอยู่กินกับโจทก์ฉันสามีภริยาจึงขอให้จำเลยคืนทองหมั้น สินสอด กับแบ่งที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่ง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าที่ดินพิพาทนี้เป็นของจำเลยซึ่งมีมาก่อนแต่งงานกับโจทก์ เมื่อโจทก์จำเลยมิได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้อง แม้โจทก์จะได้ช่วยบำรุงที่ดินให้มีราคาสูงขึ้นในระหว่างอยู่กินกับจำเลย ศาลฎีกาก็เห็นว่าโจทก์หามีสิทธิขอแบ่งไม่กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 และ 1314 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

จึงพิพากษายืน

Share