แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำมั่นที่ผู้ให้เช่าตกลงว่า เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดแล้วยินยอมจะให้ต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปอีกได้นั้น ผู้เช่าต้องแสดงความจำนงขอปฏิบัติตามคำมั่นเสียก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเช่า มิฉะนั้น หามีผลที่จะบังคับกันได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์อัตราค่าเช่าเดือนละ 1,050 บาท มีกำหนด 3 ปี สัญญาเช่าสิ้นสุดแล้ว โจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่า แต่จำเลยเพิกเฉย จึงขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้คดีและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องการบอกเลิกการเช่าของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ผู้แทนของโจทก์ได้ให้คำมั่นตกลงให้จำเลยเช่าที่พิพาทต่อเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดและเมื่อจำเลยได้มอบเงิน 20,000 บาทเป็นการตอบแทน ถือว่าจำเลยได้แสดงความจำนงรับปฏิบัติตามคำมั่นแล้วจึงเป็นสัญญาที่มีผลบังคับได้ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์และยกฟ้องแย้งของจำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาทและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 2,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาท
จำเลยฎีกา
มีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่า การแสดงความจำนงของจำเลยเพื่อขอปฏิบัติตามคำมั่นนั้นจะมีผลบังคับได้ดังจำเลยต่อสู้หรือไม่ เห็นว่าแม้จะฟังว่า เอกสาร ล.3 เป็นคำมั่นที่จะให้ต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปอีกได้ก็ดี แต่ตามหนังสือสัญญาเช่าที่พิพาทที่โจทก์กับจำเลยได้ทำกันไว้นั้นครบกำหนดอายุสัญญาเช่าในวันที่ 1 กันยายน 2502 ซึ่งจำเลยควรจะต้องแสดงความจำนงขอปฏิบัติตามคำมั่นในการขอต่ออายุสัญญาเช่าเสียภายในกำหนดเวลาที่สัญญาเช่านั้นยังไม่พ้นกำหนดการเช่าแต่คดีปรากฏตามเอกสาร ล.6 ที่จำเลยได้มีหนังสือแสดงความจำนงขอปฏิบัติตามคำมั่นเพื่อขอต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปนั้น จำเลยเพิ่งได้เขียนไปยังโจทก์เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2502 ซึ่งล่วงเลยพ้นกำหนดตามหนังสือสัญญาเช่าแล้วเป็นเวลาถึง 2 เดือน เช่นนี้เห็นว่าแม้จะฟังว่าเอกสาร ล.3 เป็นคำมั่นก็ดี ก็ไม่มีผลที่จะบังคับได้เสียแล้ว ฉะนั้น จำเลยจึงหามีสิทธิที่จะยกขึ้นอ้างเพื่อขอต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปไม่ พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย