แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์ตั้งประเด็นว่า น. ผู้ตายเคยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์ แต่จำเลยที่ 1 กลับไปขอรับมรดกที่ดินรายนี้แล้วโอนให้จำเลยที่ 2 จำเลยให้การต่อสู้โดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่า สัญญาประนีประนอมที่ น. ทำไว้ใช้ไม่ได้ เพราะเจ้าของที่ดินโฉนดพิพาทมีคนอื่น นอกจาก น. เป็นเจ้าของด้วย การที่ศาลอุทธรณ์ยกข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องนอกประเด็นเพราะจำเลยเพิ่งยกขึ้นในตอนที่จำเลยอุทธรณ์
จำเลยเป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจาก น. ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ น. ทำไว้กับโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญานั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมนายนาม อยู่สุข ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้ศาลย่อมแบ่งแยกที่ดินโฉนดที่ ๔๘๑๐ เนื้อที่ ๒ งาน ๒๕ วาให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของโจทก์ แต่ยังไม่ทันรังวัดแบ่งแยก นายนาม อยู่สุขได้วายชนม์เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๐๘ จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นภริยานายนามและเป็นมารดาจำเลยที่ ๒ ได้ขอรับมรดกที่ดินดังกล่าวแล้วโอนให้จำเลยที่ ๑ ในวันรับโอน โดยจำเลยทั้งสองรู้ดีว่านายนามได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์แก่โจทก์แล้ว ขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดที่ ๔๘๑๐ ระหว่างจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้จำเลยที่ ๑ แบ่งแยกที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ตามสัญญายอมหากไม่เพิกถอนการโอน ก็ขอให้บังคับให้จำเลยที่ ๒ แบ่งแยกที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ มิฉะนั้นขอให้ถือคำสั่งศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่ทราบว่านายนามทำสัญญาประนีประนอมยกที่ดินให้โจทก์ จะได้ทำกันจริงหรือไม่จำเลยทั้งสองไม่รับรอง จำเลยที่ ๑ ประกาศขอรับมรดกตามระเบียบ ไม่มีใครคัดค้าน เจ้าพนักงานลงชื่อจำเลยที่ ๑ เป็นผู้รับมรดกแล้วจึงโอนให้จำเลยที่ ๒ ไปโดยสุจริต และชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มิได้เรียกร้องเอาทรัพย์รายนี้จากผู้รับมรดกภายในอายุความ ๑ ปี นับแต่นายนามถึงแก่กรรม ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ นายนามถวายที่ดินให้วัดโจทก์แล้ว จึงไม่ใช่ทรัพย์มรดกของผู้ตาย จำเลยที่ ๑ ไม่มีสิทธิขอรับมรดกโดยการเอาที่ดินพิพาทโอนให้จำเลยที่ ๒ ไปทั้งหมดพฤติการณ์การโอนส่อไปในทางไม่สุจริต พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ แบ่งแยกที่ดินพิพาท เนื้อที่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา ซึ่งติดต่อทางทิศใต้กับวัดโพทูลโจทก์ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งแดงที่ ๑๘/๒๕๐๗ โดยให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โฉนดเลขที่ ๔๘๑๐ ที่พิพาทนี้นายนามถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับพี่น้องหลายคน ไม่ได้ปกครองแยกกันเป็นส่วนสัดนายนาม อยู่สุข ยอมถวายที่ดิน ๒ งาน ๒๕ ตารางวาให้โจทก์ไม่ปรากฏว่าได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์คนอื่น ๆ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ผูกพันที่ดินพิพาทโจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาท เพราะผู้โอนให้ไม่มีสิทธิที่จะโอน พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์ยกเรื่องกรรมสิทธิ์รวมมาวินิจฉัยนั้น ไม่มีประเด็นข้อต่อสู้มาแต่เดิมนั้น ตามฟ้องโจทก์ตั้งประเด็นว่านายนาม อยู่สุข เคยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์แต่จำเลยที่ ๑ กลับไปขอรับมรดกที่ดินรายนี้แล้วโอนให้จำเลยที่ ๒ จำเลยให้การต่อสู้โดยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ว่าสัญญาประนีประนอมยอมความที่นายนาม อยู่สุข ทำนั้นใช้ไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๑ เรื่องเจ้าของรวมจำหน่ายตัวทรัพย์สิน ฯลฯ ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคนขึ้นวินิจฉัยว่าสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีเดิมไม่ผูกพันที่พิพาท เป็นเรื่องนอกประเด็น
จำเลยที่ ๑ เป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจากเจ้ามรดก จึงผูกพันโดยสัญญานั้นด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องแบ่งแยกที่ดินตามสัญญานั้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทุกประการ