คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าในคดีก่อนศาลพิพากษาให้โจทก์แบ่งแยกที่ดินของโจทก์ให้จำเลยตามส่วนที่ได้รับตามคำพิพากษาแต่มิได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวของโจทก์ที่จำเลยนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินมาขายทอดตลาดจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์นั้นเป็นคำฟ้องที่โต้แย้งเกี่ยวกับการดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีโจทก์จะอ้างว่าจำเลยไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินของโจทก์และโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยสิทธิที่โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336หาได้ไม่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 152ซึ่งได้มาโดยการยกให้นางเสริม สมานบุตร ต่อมาจำเลยได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 770/2527 ของศาลชั้นต้นไปยึดที่ดินแปลงดังกล่าวแล้วนำออกขายทอดตลาด อันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินและละเมิดสิทธิของโจทก์เพราะโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวมาโดยชอบและยังมิได้ถูกเพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียน คำพิพากษาในคดีดังกล่าวพิพากษาให้โจทก์แบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 152 ให้จำเลยตามส่วนที่ได้รับตามคำพิพากษาแต่ไม่ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวของโจทก์ จึงไม่สามารถบังคับคดีเอาแก่โจทก์ได้ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้เพิกถอนการยึดหรือยกเลิกการขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าว เพิกถอนคำสั่งและหมายเรียกของศาลชั้นต้น ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องหรือรบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์อีกต่อไป และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 250,000 บาท และอีกเดือนละ10,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยและบริวารหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะหยุดรบกวนสิทธิของโจทก์
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ไม่รับ คำฟ้อง ของ โจทก์
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการยึดที่ดินของโจทก์ เพิกถอนหรือยกเลิกการขายทอดตลาดกับเพิกถอนคำสั่งและหมายเรียกของศาลชั้นต้นในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 770/2527ซึ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า ในคดีดังกล่าวศาลพิพากษาให้โจทก์แบ่งแยกที่ดินของโจทก์ให้จำเลยตามส่วนที่ได้รับตามคำพิพากษา แต่มิได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวของโจทก์ การที่จำเลยนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินมาขายทอดตลาดจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์นั้นเห็นได้ว่าเป็นคำฟ้องที่โต้แย้งเกี่ยวกับการดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องกล่าวกันในชั้นบังคับคดีดังนั้นโจทก์จะอ้างว่าจำเลยไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินดังกล่าวของโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยสิทธิที่โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 หาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับคำฟ้องของโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share