แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์จำเลยผู้เป็นทายาทได้ครอบครองที่มรดกร่วมกันมาแล้วเพียงเมื่อจำเลยห้ามน้องชายโจทก์มิให้เก็บผลไม้ในที่พิพาทได้สะดวก แต่ต่อนั้นก็ใช่ว่าโจทก์ยอมสงบไม่ยังคงติดตามให้คนเข้าเก็บและร้องต่อผู้ใหญ่บ้านกำนันให้จำเลยจัดการแบ่งให้เรื่อย ๆ มาจนมาฟ้องต่อเนื่องกันเช่นนี้ อายุความฟ้องของโจทก์ไม่ต้องบังคับตามอายุความ 1 ปี
ย่อยาว
โจทก์จำเลยทั้งสามเป็นทายาทของนางหนูเจ้ามรดก โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยต่างรับมรดกปกครองที่พิพาททั้ง ๕ แปลงตลอดมา โจทก์ขอแบ่งส่วน ๑ ใน ๓ จำเลยไม่ยอม จึงฟ้อง
จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่าจำเลยที่ ๑ ครอบครองทรัพย์มรดกเป็นเจ้าของมาแต่ผู้เดียว และตัดฟ้องว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ จัดการเอานาหมายเลข ๒,๓ แบ่งให้โจทก์ ๑ ใน ๓ โดยให้จำเลยที่ ๑ ถอนเอานาหมายเลข ๓ คืนจากเจ้าหนี้มาแบ่งปันถ้าไม่สามารถเอาคืนมาได้ให้จำเลยที่ ๑ ส่งเงินมาแบ่งแทน ๓,๐๐๐ บาท
โจทก์จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าให้จำเลยที่ ๑ แบ่งสวนหมายเลข ๑,๔ และ ๕ ให้โจทก์ ๑ ใน ๓ กับแบ่งผลประโยชน์ปี ๒๔๙๗ ให้โจทก์ ๒๕๐ บาท ฯลฯ นอกนี้ยืน จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าโจทก์ปกครองที่มรดกร่วมมาด้วยแม้ในสวนหมายเลข ๔,๕ ที่จำเลยที่ ๑ จัดให้คนเช่าไปตอนหลังนี้ก็คงจะเข้าใจกันในทางสัมพันธ์เครือญาติว่าจะแบ่งปันผลประโยชน์ต่อกันภายหลังไม่จำเป็นว่าทุก ๆ คนต้องร่วมกันเป็นผู้ตกลงให้เช่า ส่วนที่สวนหมายเลข ๑ นั้น เมื่อได้ครอบครองร่วมกันมาแล้วเพียงเมื่อเดือน ๗ ปี ๒๔๙๖ จำเลยที่ ๑ ห้ามน้องโจทก์มิให้เก็บผลไม้สดวกแต่ต่อนั้นก็ใช่ว่าโจทก์ยอมสงบยังคงติดตามให้คนเข้าเก็บและร้องต่อผู้ใหญ่บ้านกำนันให้จำเลยจัดการแบ่งให้เรื่อยมาจนมาฟ้องต่อเนื่องกันเช่นนี้ไม่ถือว่าขาดอายุความ พิพากษายืน