คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายระหว่างหลวงสกลฯผู้ขายกับจำเลยผู้ซื้อในระหว่างพิจารณาคดีก่อนจำเลยโอนขายที่ดินแก่คนอื่นๆ ไปหลายทอด จนคดีก่อนถึงที่สุดโดยศาลไม่อาจพิพากษาให้ใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินดังกล่าวได้โจทก์จึงมาฟ้องคดีใหม่ขอเรียกเงินราคาที่ดินแทน ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีเดิม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 240 เป็นเรื่องอายุความในกรณีเพิกถอนการฉ้อฉลอันลูกหนี้ได้กระทำนิติกรรมลงโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ส่วนเรื่องผู้จัดการมรดกคนก่อนสมยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกให้แก่ภรรยาของตนนั้นจะใช้อายุความตาม มาตรา240 มายันแก่ผู้จัดการมรดกคนใหม่ไม่ได้
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นจนไม่สามารถโอนที่ดินพิพาทกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้เช่นนี้ จึงเกิดเป็นหนี้ผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดใช้เงินราคาที่ดินแก่โจทก์รวมทั้งดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่เป็นราคาที่ดินนั้นอีกด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ 17 ปีมานี้ ร.ต.โต๊ะ รัตนเดชาถึงแก่กรรม มีทรัพย์มรดกหลายอย่างก่อนตาย ร.ต.โต๊ะได้ทำพินัยกรรมตั้งหลวงสกลฯ สามีจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก จนถึง พ.ศ. 2486 ก็ยังมิได้แบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท หลวงสกลฯ ก็ตายไปอีกศาลแพ่งได้มีคำสั่งตั้งโจทก์ทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้สืบต่อจากหลวงสกลฯ ความปรากฏขึ้นว่าระหว่างหลวงสกลฯ จัดการมรดก หลวงสกลฯ ได้จัดการโอนขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นมรดกของ ร.ต.โต๊ะให้แก่จำเลยในขณะเป็นสามีภรรยากัน และอยู่บ้านเดียวกันด้วยการสมยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดก ทำให้กองมรดกได้รับความเสียหายโจทก์จึงฟ้องจำเลยในคดีก่อนขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายระหว่างหลวงสกลฯ ผู้ขายและจำเลยผู้ซื้อ และให้แก้ชื่อในโฉนดเป็นชื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดก ร.ต.โต๊ะ

ในระหว่างพิจารณาคดีนั้น จำเลยได้โอนขายที่ดินดังกล่าวทั้ง 3 โฉนดให้แก่บุคคลภายนอกและมีการโอนต่อ ๆ กันไปหลายทอด ครั้นเมื่อเสร็จการพิจารณาแล้ว ศาลแพ่งได้พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายตามที่โจทก์ฟ้อง แต่คำขอของโจทก์ที่ให้แก้ชื่อในโฉนดเป็นชื่อโจทก์นั้นบังคับไม่ได้เพราะที่ดินได้ถูกโอนไปยังบุคคลอื่นแล้วตามสำนวนของศาลแพ่งคดีแดง 1312/2493

โดยที่จำเลยมีหน้าที่ต้องจัดการเพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายและโอนโฉนดลงชื่อโจทก์และส่งมอบที่ดินสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 โฉนด แก่โจทก์ การที่จำเลยโอนขายไปในระหว่างพิจารณาคดีก่อน เป็นการขัดขวางเกิดผลเสียหายทำให้โจทก์ไม่สามารถรับโอนมาจัดการตามอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกได้จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ ดังกล่าวแทนเป็นเงิน 685,000 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องซ้ำกับคดีก่อน โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกที่ดินและราคาที่ดินเป็นสองซ้ำ คดีขาดอายุความ จำเลยได้กรรมสิทธิทางครอบครอง และโจทก์ตั้งราคาทรัพย์ที่พิพาทสูงเกินไป

ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาที่ดิน 280,500 บาทแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ราคาที่ดินรายพิพาท 3 แปลงเป็นเงิน 666,000 บาท และให้จำเลยเสียดอกเบี้ยในจำนวนนี้ร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายศาลฎีกาเห็นว่า

คดีก่อน โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายระหว่างหลวงสกลฯ (ผู้จัดการมรดก ร.ต.โต๊ะ) ผู้ขายกับจำเลยผู้ซื้อ และในระหว่างพิจารณาคดีก่อนนั้นจำเลยโอนขายที่ดินแก่คนอื่น ๆ ไปหลายทอดจนในคดีก่อนศาลไม่อาจพิพากษาให้ใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกได้ โจทก์ก็จำต้องมาฟ้องเป็นคดีใหม่นี้ขอเรียกเงินแทนจึงเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยก่อให้เกิดขึ้นภายหลังอันเป็นผลเนื่องมาจากที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายซึ่งศาลฎีกายังไม่ได้วินิจฉัยในคดีก่อนนั่นเอง การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีก่อน

เรื่องอายุความ ตามฟ้องว่าหลวงสกลฯ กับจำเลยทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทด้วยการสมยอม การจึงเป็นว่าหลวงสกลฯมิใช่ลูกหนี้โจทก์ แต่เป็นเรื่องหลวงสกลฯ ปกครองทรัพย์ไว้ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ร.ต.โต๊ะตามคำสั่งของศาลแพ่ง จะใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 240 มาใช้บังคับมิได้ อ้างฎีกาที่ 455/2489 และการครอบครองของจำเลยก็ไม่เป็นไปโดยสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ จึงยกอายุความ 10 ปีมาใช้บังคับไม่ได้

ในเรื่องดอกเบี้ย เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นจนไม่สามารถโอนที่ดินพิพาทกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้เช่นนี้ จึงเกิดเป็นหนี้ผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดใช้เงินราคาแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย

ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่าให้จำเลยใช้ราคาที่ดินพิพาท 3 แปลงเป็นเงิน 499,500 บาทแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้ร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี ตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์

Share