แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะกระทำผิด พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2496 ยังใช้บังคับอยู่ แม้ต่อมาชั้นพิจารณาได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อ พ.ศ. 2502 ก็ตาม แต่การฆ่าโคกระบือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายยังคงถือว่าเป็นความผิดอยู่ และไม่มีคุณแก่ผู้กระทำผิดจึงต้องใช้พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ที่ใช้ขณะกระทำผิดบังคับแก่คดีตามหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา
ฆ่ากระบือ กฎหมายให้ปรับเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่าได้ไม่เกินตัวละ 500 บาท ฉะนั้น เมื่อศาลปรับเรียงตัวจำเลยจึงปรับได้ไม่เกินคนละ 500 บาท
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมกันฆ่ากระบือ 1 ตัว โดยไม่รับอนุญาตและเสียอากร ศาลชั้นต้นปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 500 บาท จำเลยนอกนั้นปรับคนละ 400 บาท ลดให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 250 บาท ปรับจำเลยนอกนี้คนละ 200 บาท ฯลฯ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่า จำเลยร่วมกันฆ่ากระบือ 1 ตัว ศาลปรับได้อย่างมาก 500 บาท คือ ปรับเรียงตัวจำเลย 5 คนได้ไม่เกินคนละ100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนอ้างฎีกาที่ 1338/2498
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในขณะศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้ แม้ได้ประกาศให้พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อ พ.ศ. 2502 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. 2488, 2490(ทั้งฉบับที่ 2 และที่ 3) ตลอดจนพระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2496 ซึ่งใช้อยู่ในขณะกระทำผิดด้วยก็ตาม แต่ยังคงถือเอาการฆ่าสัตว์เช่น โค กระบือ โดยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าเป็นความผิดอยู่อย่างเดิม ความผิดจึงหาได้ยกเลิกไปไม่ เห็นว่าพระราชบัญญัติฉบับหลังนี้มาตรา 18 ได้วางโทษหนักกว่ากฎหมายเก่าประการหนึ่งกับอีกประการหนึ่ง กฎหมายใหม่นี้ถึงแม้จะไม่มีคำว่า “การวางปรับให้วางเรียงตัวผู้กระทำผิด” เหมือนอย่างกฎหมายที่ใช้ขณะจำเลยกระทำผิดมาตรา 4 ซึ่งดูเหมือนหนึ่งว่ามีวิธีวางโทษเบากว่ากฎหมายที่ใช้ขณะจำเลย จะกระทำผิดก็ตาม แต่ก็ยังมีความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 ที่บัญญัติให้ศาลปรับเรียงตามรายตัวบุคคล โดยเหตุนี้กฎหมายใหม่ที่บัญญัติในภายหลังการกระทำผิดจึงไม่เป็นคุณแก่จำเลยประการใดศาลจึงชอบที่จะใช้พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2496 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดบังคับแก่คดีนี้ ตามหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ มาตรา 11 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2496 มาตรา 4 มีความว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 5 มีความผิดต้องระวางโทษดังนี้ (1) ถ้าเป็นโคหรือกระบือ ปรับตัวละไม่เกิน 500 บาทหรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ การวางโทษปรับให้วางเรียงตัวผู้กระทำผิดและเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่า……” และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ศาลจะพิพากษาให้ปรับผู้กระทำความผิดหลายคนในความผิดอันเดียวกันในกรณีเดียวกัน ให้ศาลวางโทษปรับเรียงตามรายตัวบุคคล
บทกฎหมายมีอยู่ดังกล่าว การปรับจำเลยในคดีนี้จึงต้องปรับเรียงตัวจำเลยและเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่า กล่าวคือ ถ้าฆ่าสัตว์หลายตัวอัตราโทษตามกฎหมายซึ่งผู้กระทำผิดแต่ละคนจะได้รับก็สูงขึ้นความผิดของจำเลยนี้เป็นการฆ่าสัตว์ตัวเดียว ตามพระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ปรับเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่าไม่เกินตัวละ 500 บาท ดังนั้นเมื่อปรับเรียงตัวจำเลย จึงปรับจำเลยแต่ละคนได้ไม่เกินคนละ 500 บาท ที่ศาลทั้งสองวางโทษปรับจำเลยไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้จึงพิพากษายืน