คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ตายกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก 3 ทีในขณะที่ต่อสู้กันนั้นเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาท ประกอบกับผู้ตายและจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีสาเหตุอันใดต่อกัน เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยหามีผิดตามมาตรา 249 ไม่ แต่มีผิดเพียง มาตรา 251

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดแทงนายพันบาดเจ็บสาหัสโดยเจตนาฆ่า นายพันถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลนั้น ขอให้ลงโทษจำเลยให้การรับว่าทำร้ายนายพันตายจริง แต่เพื่อป้องกันตัว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 249 ให้จำคุก 20 ปี

จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นกรณีวิวาท ศาลควรลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251 ฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความชัดจากคำพยานโจทก์ว่านายพันกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยยังแทงซ้ำอีก 3 ที ในขณะที่ต่อสู้กัน มิใช่ว่าการวิวาทต่อสู้เลิกลาขาดตอนไปแล้ว จำเลยตามไปแทงซ้ำจึงเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาทประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคดีได้ความตามคำพยานโจทก์ว่านายพันกับจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มิได้มีสาเหตุอันใดต่อกัน เมื่อนายพันถูกแทงแล้วจำเลยยังพูดว่าพี่กูตายแล้วและนายพันตอบว่าไม่ควรทำพี่อย่างนี้เลย เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่านายพัน หากทำหนักมือไป จะเอาผิดจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 249 ฐานฆ่าคนตายไม่ได้

จึงพิพากษาแก้ให้จำคุก 10 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251

Share