แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์ว่าจำเลยเล่นการพะนันโปปั่นมาแล้วครั้งหนึ่งพ้นโทษมาไม่ครบ 3 ปีมากระทำผิดต่อ พ.ร.บ. นี้อีกขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตาม พ.ร.บ.การพะนัน 2478 นั้นหมายความว่าโจทก์ประสงค์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามพ.ร.บ.การพะนัน 2478 ที่โจทก์ฟ้องนั้นเองอีก เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายนั้นได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วสมคบกันเล่นการพะนันโปปั่น ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพะนันโปปั่นมาแล้วครั้งหนึ่งศาลจำคุกและปรับ พ้นโทษมาไม่ครบ ๓ ปีมากระทำผิดต่อ พ.ร.บ.การพะนันนี้อีก ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพะนัน ๒๔๗๘ พระราชบัญญัติการพะนันฉบับที่ ๓,๒๔๘๕
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ข้อเพิ่มโทษให้ยกอ้างเหตุว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ชัดว่าประสงค์ขอให้เพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติการพะนันฉะบับไหนปีไหนเพราะความผิดฐานเล่นโปปั่นนั้นถ้าคดีก่อนเคยต้องโทษตาม พ.ร.บ.การพะนัน ๒๔๗๓ แล้วก็เพิ่มโทษตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้นไม่ได้
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามฟ้องต้องแปลว่าจำเลยเคยต้องโทษตาม พ.ร.บ.การพะนัน ๒๔๗๘ มาแล้วพ้นโทษยังไม่ครบ ๓ ปี จึงพิพากษาแก้ให้วางโทษจำเลยทวีคูณตาม พ.ร.บ.การพะนันฉะบับที่ ๓ ๒๔๘๕
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องของโจทก์ว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพะนันโปปั่นมาแล้ว ๑ ครั้งพ้นโทษยังไม่ครบ ๓ ปี แล้วมากระทำผิดต่อ พ.ร.บ.การพะนันนี้อีกหาเข็ดหลาบไม่ดังนี้ ต้องหมายความว่าโจทก์ประสงค์หาว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพะนันตาม พ.ร.บ.การพะนัน ๒๔๗๘ ที่โจทก์ฟ้องนั้นเอง จึงพิพากษายืนศาลอุทธรณ์