แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับหมายเรียกให้มาตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารในวันที่ 19 เมษายน 2496 เวลา 7.00 น. ณ วัดโพธิ์ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงกำหนดจำเลยหลีกเลี่ยง จำเลยใช้อุบายถือไหสุราแช่ 1 ไหเข้าไปในตลาดบางจักรให้เจ้าพนักงานตำรวจจับในข้อหาว่ามีสุราไม่รับอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากเป็นทหาร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2479 มาตรา 24, 49, 45
จำเลยต่อสู้ว่าในวันคัดเลือกระหว่างทางจำเลยได้ซื้อน้ำตาลเมากินที่หลังตลาดบางจักร ส่วนที่เหลือเอาใส่ภาชนะถือมาจะลงเรือก็ถูกจับจำเลยได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าจะไปคัดเลือกทหารและขอประกันตัว เจ้าพนักงานไม่ยอม ส่งจำเลยไปปรับที่อำเภอวิเศษไชยชาญกว่าจะเสร็จ16.00 น. เสร็จแล้วจำเลยรีบไปแจ้งต่อพนักงานอำเภอผักไห่ว่าถูกจับ จำเลยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงและไม่ได้ใช้อุบาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเป็นข้อกฎหมายว่าศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2479จำเลยต้องมีผิด
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เข้ารับราชการทหารดังโจทก์ฟ้อง ส่วนการที่จำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดนั้น ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ. 2479
พิพากษายืน