แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ. 00890 ของรถยนต์ยี่ห้อเฟียตมาติดใช้กับรถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเอกสารแท้จริงที่ราชการทำขึ้น ไม่ใช่เอกสารปลอมจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร และการที่จำเลยนำป้ายทะเบียนนั้นมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ. 00890 จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่า เลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่น ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายลักรถยนต์เก๋งยี่ห้อเฟียต หมายเลขเครื่องประจำรถ ๐๑๐๑๔๔๔ หมายเลขทะเบียน ก.ท.ช.๖๕๕๕ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของ จ.ไป และจำเลยรับของโจรรถยนต์นั้น แล้วจำเลยปลอมเอกสารโดยขูดลบเลข ๐๑๐๑๔๔๔ ของเครื่องรถยนต์ออกโดยเลข ๒๑๕๑๗๓ ลงไปแทน และปลอมแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับติดรถยนต์ซึ่งเป็นเอกสารราชการกรมตำรวจ ๒ แผ่น ใส่ตัวเลขและอักษรปลอม ส.ฎ. ๐๐๘๙๐ ลงในแผ่นป้าย ความจริงแผ่นป้ายตัวเลขและอักษรดังกล่าวเจ้าหน้าที่แผนกรถยนต์ กรมตำรวจออกดให้แก่ผู้อื่น จำเลยใช้เอกสารปลอมโดยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ปลอมขึ้นมาติดกับรถยนต์ที่จำเลยรับไว้ขับไปตามถนน และขายรถยนต์แก่ จ.ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๕๗, ๒๘๔, ๒๖๕, ๒๖๘ ริบป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม คืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗, ๖๖๕, ๒๖๘ จำคุกตามมาตรา ๓๕๗ สี่ปี จำคุกตามมาตรา ๒๖๕, ๒๖๘ สองปีริบป้ายทะเบียนปลอม รถยนต์ของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์ที่ จ.เช่าซื้อไว้และถูกลักไป จึงลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้ สำหรับข้อหาฐานปลอมป้ายทะเบียนรถยนต์และใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมนั้น โจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าป้ายทะเบียนรถยนต์ ส.ฎ. ๐๐๘๙๐ ที่นำมาใช้กับรถยนต์ของกลางเป็นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม ทั้งปรากฏว่าป้ายหมายเลขทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเลขของรถยนต์ที่จำเลยซื้อไว้ จึงไม่เหตุผลผลอะไรที่จะต้องทำปลอมขึ้นใหม่อีก เชื่อได้ว่าจำเลยเอาป้ายรถยนต์หมายเลข ส.ฎ. ๐๐๘๙๐ ไม่ใช่เอกสารปลอม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอม เอกสาร และการที่จำเลยนำป้าย ทะเบียนรถยนต์ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่แท้จริงมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ. ๐๐๘๙๐ จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมป้ายทะเบียนรถยนต์นั้นจึงมิใช่ทรัพย์ที่จะต้องถูกริบตามกฎหมาย
ข้อหาฐานปลอมหมายเลขประจำเครื่องยนต์ โจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่า จำเลยเป็นผู้ปลอมหรือร่วมปลอม จึงลงโทษจำเลยฐานปลอมหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลางไม่ได้ ส่วนข้อหาฐานใช้หมายเลขเครื่องยนต์ปลอมนั้นเห็นว่าหมายเลขเครื่องยนต์ ๒๑๕๑๗๓ เป็นเลขหมายเครื่องยนต์ของรถยนต์เลขหมายทะเบียน ส.ฎ. ๐๐๘๙๐ ที่จำเลยซื้อจาก อ. โดยลงชื่อ ข. บุตรจำเลยเป็นผู้ครอบครองในใบอนุญาตทะเบียนและระบุว่าเป็นรถยนต์สีเทา จำเลยย่อมทราบเลขเครื่องยนต์ และสีรถยนต์ได้ดี เมื่อมีผู้ไปติดต่อซื้อรถยนต์ของกลางจากจำเลย จำเลยนำรถยนต์ของกลางไปพ่นสีฟ้า และนำไปตรวจเครื่องยนต์ ผู้ซื้อนำเงินไปชำระแก่จำเลยแล้วนำรถยนต์ของกลางจากจำเลยไปใช้ จึงเชื่อได้ว่าจำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ ๒๑๕๑๗๓ เป็นหมายเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมแม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่น ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ ประกอบด้วยมาตรา ๒๖๔ จำคุก ๑ ปี จำเลยอายุ ๗๐ ปี ไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๓ ปี ป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่ริบ รถยนต์ของกลางคืนเจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์