คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่ จ. ต้องโอนให้บริษัท อ. ตามข้อตกลงในการก่อตั้งบริษัท อ. แต่ จ. ถึงแก่กรรมก่อนที่จะโอนที่ดินให้บริษัทตามข้อตกลงจำเลยในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท อ. ได้ฟ้องโจทก์ให้โอนที่ดินคืนให้แก่บริษัทและยังไม่ปรากฏว่าคดีถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ย่อมถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 วรรคแรก ในอันที่จะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนโอนที่ดินส่วนของ จ. ดังกล่าว มาเป็นของบริษัท อ. ตามข้อตกลงก่อตั้งบริษัท จำเลยจึงมีสิทธิขออายัด ที่ดินดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ขอให้บังคับจำเลยไปดำเนินการยื่นคำขอถอนอายัดที่ดินโฉนดเลขที่ 1226 และ 10111 เฉพาะส่วนที่โจทก์ได้รับโอนจากกองมรดกของนางจรุง อัศวาณิชย์ หากจำเลยเพิกเฉยให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การว่า การอายัดที่ดินเป็นการอายัดของเจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ดินโฉนดเลขที่ 1226 เดิม นางจรุง อัศวาณิชย์ และบริษัทอัศวาณิชย์ จำกัด ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ในส่วนที่เป็นชื่อของนางจรุงนั้น นางจรุงต้องโอนให้แก่บริษัทอัศวาณิชย์ จำกัด ตามข้อตกลงซึ่งโจทก์ทราบดีอยู่แล้ว การที่โจทก์รับโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 1226 เป็นการรับโอนโดยไม่สุจริต ซึ่งจำเลยได้ฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนจากโจทก์เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2562/2538 ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา การอายัดที่ดินตามฟ้องไม่เป็นการอายัดเกินสิทธิ ไม่ทำให้โจทก์เสียหาย และตามหลักฐานทางทะเบียนเจ้าของรวมยังไม่ได้มีการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ถอนการอายัด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินโฉนดเลขที่ 1226 และ 10111 เฉพาะส่วนที่โจทก์รับโอนมาจากกองมรดกของนางจรุง อัศวาณิชย์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิขออายัดที่ดินดังกล่าวนั้น เห็นว่า ที่ดินตามโฉนดที่ดินดังกล่าวจำเลยอ้างว่าเป็นที่ดินที่นางจรุงต้องโอนให้บริษัทอัศวาณิชย์ จำกัดตามข้อตกลงในการก่อตั้งบริษัทดังกล่าว แต่นางจรุงถึงแก่กรรมก่อนที่จะโอนที่ดินให้บริษัทตามข้อตกลง ซึ่งจำเลยในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัทอัศวาณิชย์ จำกัด ได้ฟ้องโจทก์ให้โอนที่ดินคืนให้แก่บริษัทและยังไม่ปรากฏว่าคดีถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หากคดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษายกฟ้องการอายัดก็ย่อมสิ้นผลไปตามกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนั้นย่อมถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 วรรคแรก ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินใดอันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้มีความประสงค์จะขออายัดที่ดิน ให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานที่ดิน” เมื่อจำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนโอนที่ดินส่วนของนางจรุงดังกล่าวมาเป็นของบริษัทอัศวาณิชย์ จำกัด ตามข้อตกลงก่อตั้งบริษัท จำเลยจึงมีสิทธิขออายัดที่ดินดังกล่าวได้

พิพากษายืน

Share