คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระทรวงพาณิชย์สั่งให้ผู้อำนวยการองค์การจัดซื้อสิ่งของ จัดหาช่างทำเคียว จำเลยประมูลได้ กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งผู้อำนวยการองค์การนี้ เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปได้ ผู้อำนวยการจึงทำสัญญากับจำเลยโดย “องค์การจัดซื้อสิ่งของๆ กระทรวงพาณิชย์” กับจำเลยและผู้อำนวยการองค์การเป็นผู้ลงนามในช่องผู้จ้าง ดังนี้ เมื่อองค์การจัดซื้อสิ่งของไม่ใช่นิติบุคคลก็ต้องถือว่าผู้อำนวยการองค์การทำสัญญาในฐานะเป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์
การที่กระทรวงพาณิชย์จ้างจำเลยทำเคียวเกี่ยวข้าวนั้นไม่เป็นการแจ้งชัดในตัวว่าเป็นการค้าอันเป็นการนอกวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ ดังเช่น การรับจ้างขนส่งน้ำตาลตามที่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาฎีกาที่ 950/2491และจำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่า อยู่นอกวัตถุประสงค์ ฉะนั้นเพียงแต่กระทรวงพาณิชย์จ้างจำเลยเช่นนี้ จะว่าเป็นการกระทำนอกขอบวัตถุประสงค์กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ ถ้าจำเลยผิดสัญญา กระทรวงพาณิชย์ก็มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์โดยพระพิศาลสุขุมวิท ผู้อำนวยการองค์การจัดซื้อสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์และบูรณะความเสียหายของประกาศซึ่งเป็นองค์การจัดขึ้นอยู่ในกระทรวงพาณิชย์ ในขณะนั้นเป็นตัวแทนได้ทำสัญญาจ้างเหมาทำเคียวเกี่ยวข้าวกับจำเลย ตามสำเนาสัญญาและหนังสือรับรองของจำเลยท้ายฟ้อง จำเลยทำเคียวที่ไม่ถูกต้องตามที่ตกลงไว้มาส่ง โจทก์ให้จำเลยแก้ จำเลยก็ไม่แก้ จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ได้ทำสัญญากับโจทก์หรือตัวแทน จำเลยทำสัญญากับองค์การจัดซื้อสิ่งของ และองค์การนี้ก็ไม่ใช่นิติบุคคลจึงจะเป็นตัวแทนของโจทก์ไม่ได้ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย นอกจากนี้ยังต่อสู้ข้ออื่น ๆ อีก

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้อำนวยการองค์การจัดซื้อสิ่งของ ๆ เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและฟังว่าจำเลยผิดสัญญา พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

ศาลอุทธรณ์อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 950/2491 วินิจฉัยว่าโจทก์ต้องแสดงว่า กิจการที่องค์การจัดซื้อฯ กระทำนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมกองใดในกระทรวงพาณิชย์ เมื่อแสดงไม่ได้ซ้ำยังปรากฏว่าองค์การนี้ได้ตั้งขึ้นเพื่อจัดการซื้อสิ่งของเพื่อบูรณะประเทศไม่ใช่ในทางควบคุมและส่งเสริมและสนับสนุนการพาณิชย์ของประเทศจึงอยู่นอกหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ การทำสัญญานั้น จึงหาได้ก่อให้เกิดสิทธิแก่กระทรวงพาณิชย์แต่ประการใดไม่ กระทรวงพาณิชย์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การจ้างทำเคียวไม่แสดงอยู่ในตัวเองว่าเป็นการค้าเป็นการนอกวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ ดังเช่นการรับจ้างขนส่งน้ำตาล ดังที่วินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาฎีกาที่ 950/2493 และจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าอยู่นอกวัตถุประสงค์ ศาลฎีกาจึงยังไม่อาจที่จะฟังเช่นนั้นได้ สัญญาในคดีนี้ได้กระทำในระหว่าง “องค์การจัดซื้อสิ่งของกระทรวงพาณิชย์” กับจำเลย และพระพิศาลสุขุมเป็นผู้ลงนามในช่องผู้จ้าง ฉะนั้นเมื่อองค์การนี้ ไม่ใช่นิติบุคคลพระพิศาลฯ ก็ไม่ใช่ผู้แทนขององค์การฯ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 ได้ ต้องถือว่าพระพิศาลฯ กระทำสัญญาในฐานะเป็นตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ทีเดียว อนึ่งการที่กระทรวงพาณิชย์ฟ้องคดีนี้ก็เป็นการให้สัตยาบันการกระทำของพระพิศาลฯ ซึ่งเป็นตัวแทนอีกเปลาะหนึ่ง จะว่าพระพิศาลฯ ไม่ได้กระทำการนี้แทนกระทรวงพาณิชย์เพราะอยู่นอกวัตถุประสงค์กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้ ดังกล่าวแล้วที่ศาลอุทธรณ์ยกเหตุว่ากระทรวงพาณิชย์ฟ้องไม่ได้ขึ้นพิพากษาคดี จึงยังไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา

จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share