แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 บัญญัติว่า ต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตาม กฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่าง ใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้.
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยก คำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนิน การพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลพังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป.
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัย ขอ้เท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ๆ ย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้โดยไม่จำ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก./
ย่อยาว
คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่ดินตามหนังสือสัญญาซื้อขาย ที่มีชื่อนายนิสัย ชอบเจริญเป็นผู้ขาย นายชั้น แต้มทอง บิดาผู้ร้องเป็นผู้ซื้อนั้น เป็นกรรมสิทธิของผู้ร้อง โดยนายชั้นซื้อแทนผู้ร้องไว้
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ที่พิพาทเป็นของนายชั้น ๆ ทำพินัยกรรมให้ ด.ช.เอกชัย แล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานของผู้ร้องยังฟังไม่ได้ว่า นายชั้นได้ซื้อที่พิพาทแทนจึงพิพากษายกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การเสนอคดีต่อศาลนั้นต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมาย หรือบุคคลใด จะต้องใช้สิทธิในทางศาลตามที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๕๕ ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่างใดเกิดขึ้น มา ก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้ เช่นในคดีนี้ ผู้ร้องอ้างว่านายชั่นซื้อที่แทนตน นายชั้นตาย ที่ดินตกอยู่เฉย ๆ ไม่มีทายาทผู้ใดครอบครอง ผู้ร้องก็ชอบที่จะใช้สิทธิในฐานะเป็นเจ้าของครอบครองได้ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล อย่างไรก็ดีเฉพาะ คดีนี้มีนายชาญยื่นคำร้องคัดค้านและศาลสั่งให้ดำเนินการพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทแล้ว เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาล ดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นอันผ่านไป
ส่วนข้อเท็จจริง คงฟังตามศาลล่าง จึงพิพากษายืน.