แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤตติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ไม่ต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฎในฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามคนนี้ สมคบกันใช้ปืน,มีด,ยิงฟันแทง ท.โดย ร.จำเลยเปนผู้ลงมือยิง, ต.กับ ย.จำเลยเปนผู้ฟันแทง, ท.ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๖๓
ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อเท็จจริงได้ความว่า ร.เปนคนยิง ย.เอา หอกแทงและ ต.ฟันแต่โจทก์ฟ้องว่า ร.ยิง ย.ต.ฟันแทงและจำเลยมีปืนและมีด ชั้นพิจารณาได้ความว่ามีหอก ดังนี้ ตามฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ไม่ต่างกับฟ้องเลย เพราะโจทก์ได้กล่าวรวมถึงการฟันแทงไว้ด้วย ตาม ม.๑๙๒ (๒) แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
ส่วนข้อที่ว่าควรมีผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๓ นั้น เห็นว่าเมื่อปรากฎว่าจำเลยได้ทำร้ายเขาถึงตายดังนี้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษตามฐานความผิดที่เกิดขึ้นนั้นได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฎีกาจำเลย