แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลย มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี นั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาล ก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เพียงแต่โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษาคดีนั้นยังไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ. ๒๔๗๒ มาตรา ๘ – ๑๑ – ๕๓ – ๖๙ แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๖ มาตรา ๙ และ (ฉะบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖ – ๗ .
จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามฟ้องให้จำคุก ๖ เดือนปรับ ๕๐๐ บาท ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ เดือน ปรับ ๒๕๐ บาท โทษจำให้รอการลงอาญาไว้.
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้เรียงกะทงลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้เรียงกะทงลงโทษ
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อหาของโจทก์ในเรื่องนี้กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลยมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่า ๑๐ ปี ฉะนั้น จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เรื่องนี้โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษามายังไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๗๖
จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาาศาลให้ศาลชั้นต้นพิจารณาฟังคำพยานจนสิ้นกระแสร์ความแล้วพิพากษาใหม่.
