แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่ามอบโคให้จำเลยที่ 1 ไว้แล้วจำเลยที่ 1 ยักยอกเอาโคไปและในฟ้องข้อต่อไปว่าจำเลยที่ 2-3 และ 4 ได้ลักเอาโคที่จำเลยที่ 1 ยักยอกไป หรือรับเอาไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า
ข้อ 1. เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2499 เวลาประมาณ 18.00 น. จำเลยที่ 1 ได้รับมอบหมายโคผู้ 1 ตัว ราคา 800 บาทของนายบุญไว้เพื่อดูแลครั้นระหว่าง18.00 น. วันที่ 30 เมษายน 2499 ถึง 6.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2499 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยที่ 1 ได้บังอาจมีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังยักยอกเอาโคผู้ 1 ตัวของนายบุญไปเป็นประโยชน์ของตน เหตุเกิดที่ตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ข้อ 2. ต่อมาวันที่ 1 พฤษภาคม 2499 เวลากลางวัน จำเลยที่ 2, 3 และ 4 ได้พาโคของนายบุญรายนี้ไป ทั้งนี้โดยตามวันและเวลาดังกล่าวแล้วในฟ้องข้อ 1 จำเลยที่ 2, 3 และ 4 ได้บังอาจสมคบกันลักโคของนายบุญรายนี้ที่ถูกจำเลยยักยอกมา หรือมิฉะนั้นตามวันและเวลาดังกล่าวแล้วในฟ้องข้อ 1 ถึงวันและเวลาดังกล่าวแล้วในฟ้องข้อ 2 จำเลยที่ 2, 3 และ 4 ได้บังอาจรับโครายนี้ไว้จากจำเลยที่ 1 โดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาจากการกระทำผิดต่อกฎหมาย เหตุเกิดเกี่ยวพันกันระหว่างตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิซึ่งเป็นตำบลที่จำเลยที่ 1 รับมอบหมายและยักยอกโคไป และตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นตำบลที่จำเลยที่ 2, 3 และ 4 พาโครายนี้ไป ขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294, 314 และ 321
ศาลจังหวัดชัยภูมิว่า คำฟ้องขัดแย้งกันและเคลือบคลุม พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าฟ้องของโจทก์ไม่ขัดแย้งและไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์