คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จับช้างป่าแล้วไม่ชักลาก เป็นเหตุให้ช้างเหยียบย่ำทำร้ายกันเองจนตาย จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาฆ่า ช้างตายเพถราะทำการจับช้างไม่ทันท่วงทีโดยคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ถูก โจทก์ไม่สืบพยานขอให้วินิจฉัยว่าพฤติการณ์เช่นว่านี้จำเลยมีความผิดหรือไม่
พฤติการณ์เช่นว่านี้ยังไม่ปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าหรืออาจแลเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าช้างป่าโดยเจตนา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ในการตั้งคอกจับช้างป่า จำเลยจับช้างป่าเข้าคอก ๒๐ เชือกแล้วไม่ชักลากช้างป่าออกจากคอกในทันทีที่ช้างป่าเข้าคอกปล่อยทิ้งช้างไว้จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑๒ ซม.ทำให้ช้างเหยียบย่ำทำร้ายกันเองและอดหญ้า อดน้ำตายไป ๙ เชิอก โดยพฤติการณ์อันมิใช่พ้นวิสัยจะป้องกันหลีกเลี่ยงได้ ขอให้ลงโทษฐานฆ่าช้างป่า ตาม พ.ร.บ. รักษาช้างป่า พ.ศ. ๒๔๖๔ มาตรา ๑๘
จำเลยรับว่าต้อนช้างป่าเข้าคอกจริงจำเลยมีช้างลากเพียง ๒ เชือก จึงทำการจับช้างไม่ทันท่วงทีโดยคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ถูก หามีเจตนาฆ่าไม่
คู่ความไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลล่างทั้งสองเห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ได้ทำให้ช้างตายโดยตรงและจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าช้างนั้น หากจะถือว่าจำเลยเอาช้างออกจากคอกช้าไปกว่า ๑๒ ชม. ตามวิธีที่เคยปฏิบัติมา แต่จำเลยละเลยเสียก็เป็นเรื่องทำให้ช้างตายโดยประมาทเท่านั้น ยังไม่มีผิดตามข้อหา จึงให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่าตามพฤติการณ์ดังกล่าวควรฟังได้ว่าจำเลยฆ่าช้างป่ามีความผิด
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม พ.ร.บ. รักษาช้างป่า พ.ศ. ๒๔๖๔ ม. ๑๘ บัญญัติว่า ผู้ใดฆ่าช้างป่าโดยวิธีใด ๆ ก็ตาม ผู้นั้นมีความผิด ฯลฯ
ตามคำฟ้องโจทก์มิได้ยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าช้างป่า คำในฟ้องที่ว่า “อันเป็นการฆ่าช้างป่า” นั้นคือโจทก์ถือเพียงว่าตามพฤติการณ์ที่เกิดช้างตายขึ้นนั้นควรฟังได้ว่าจำเลยฆ่า แต่เมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีเจตนา แล้วโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่าเป็นการกระทำของจำเลยโดยตั้งใจให้ช้างตายหรืออาจแลเห็นผลแห่งการที่กระทำนั้นได้เช่นนี้ ลงโทษจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.

Share