คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2466

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขัดทรัพย์
คำพิพากษาในเรื่องก่อน

ย่อยาว

จำเลยแพ้คดีโจทย์ ๆ นำยึดทรัพย์ นาง ฝ. ภรรยาจำเลยร้องขัดทรัพย์ ว่าณี่สินเกิดขึ้นโดยสมยอมทรัพย์ที่โจทย์นำยึดเปนของ ฝ. แลบุตร์
ฎีกาตัดสินในชั้นนั้นว่า ผู้ร้องสืบไม่ได้ว่าณี่สินเกิดขึ้นโดยสมยอม จึงพิพากษาให้ยึดได้ ต่อมา ฝ. ได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์อีก แต่ในครั้งนี้ยื่นในนามที่เปนผู้ปกครอง อ. ว่าที่ดินแลสิ่งที่ปลูกสร้างอยู่ในนั้น ฝ. ได้ยกให้แก่ อ. ผู้ร้องแล้ว ศาลจังหวัดเพ็ชร์บุรีแลศาลอุทธรณ์ฯ ให้ยกคำร้องโดยวินิจฉัยว่า สิ่งที่ปลูกสร้าง คือเรือน ห้องแถวกับครัวเปนทรัพย์ของ ฝ. ส่วนที่ดินโจทย์มิได้ยึด ฝ.ฎีกา
ฎีกาตัดสินว่า ในครั้งแรก ฝ. ร้องว่าตู้เหล็กกับเรือนที่ยึดนั้นเปนของ ฝ. กับบุตร์ แต่ ฝ. หาได้ระบุว่าสิ่งใดเปนของ ฝ.แลสิ่งใดเปนของบุตร์ ฝ. ให้แน่นอนลงไปไม่ แลในครั้งนั้นศาลฎีกาได้ยกปัญหาขึ้นวินิจฉัยแต่เรื่องณี่สินระหว่างโจทย์จำเลย ว่าจำเลยได้เปนณี่โจทย์โดยชอบฤาไม่ เพราะศาลล่างทั้ง ๒ ได้วินิจฉัยยืนกันมาว่าเปนณี่โดยสมยอม ฎีกาฉบับก่อน ไม่ได้วินิจฉัยถึงเรื่องทรัพย์ ว่าสิ่งไรเปนของ ฝ. แลสิ่งไร เปนของบุตร์ ฝ. วินิจฉัยแต่เพียงว่า เมื่อจำเลยผู้เปนสามีเปนณี่โจทย์จริงแล้ว โจทย์ก็มีอำนาจยึดทรัพย์ ฝ. ผู้เปนภรรยาได้ ณบัดนี้ อ.บุตร์ ฝ. ได้รัองขัดทรัพย์ขึ้นมาว่า เรือนแลห้องแถวที่กล่าวนั้นเปนของ อ. แล อ. ได้จำนำ ป. ไว้ ต่อไปศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า อ. ได้จำนำ ป. จริง แลวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงนั้นว่า เรือนแลห้องแถวที่กล่าวนี้เปนของ อ. โดย ฝ. ยกให้เปนการตอบแทนในการที่ อ. รับใช้ณี่แทนนาย อ. ผู้บิดาสามี ฝ. แลว่าคดีนี้ไม่ขัดกับคำพิพากษาฎีกาในเรื่อง ฝ. ร้องขัดทรัพย์ เพราะคดีนั้น อ.มิได้เปนคู่ความด้วย ฯลฯ จึงให้ถอนการยึด

Share