คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทมาครั้งหนึ่งแล้วซึ่งศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน และพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยพยายามจะบุกรุกเมื่อใดและเมื่อจำเลยยังมิได้บุกรุกก็ไม่เป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ ส่วนข้อที่โจทก์ขอศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทนั้น ศาลไม่อาจสั่งให้ได้เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงฟ้องคดีใหม่ยืนยันว่าจำเลยบุกรุกที่พิพาทแน่นอนเมื่อใดเป็นเนื้อที่เท่าใด ดังนี้โจทก์ย่อมฟ้องได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนศาลยังมิได้วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของใคร และจำเลยบุกรุกที่พิพาทจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นใหม่ในคดีหลัง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตำบลเขากะลา ซึ่งเดิมรวมอยู่ในตำบลเขาทอง จำเลยบุกรุกแย่งการครอบครอง ขอให้พิพากษาแสดงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ขับไล่จำเลยห้ามเกี่ยวข้อง

จำเลยต่อสู้ว่า เป็นที่ดินของจำเลยครอบครองมา เดิมอยู่ตำบลเนินมะกอก ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว โจทก์ฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 159/2508

วันนัดพิจารณา คู่ความท้ากันให้บุคคลผู้มีชื่อ 6 คนไปดูที่พิพาทหรือถ้ารู้จักอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปแล้วรายงานมายังศาลว่าที่พิพาทอยู่ตำบลใดให้ศาลวินิจฉัยตามรายงานดังกล่าวว่า ที่พิพาทอยู่ตำบลใดแน่ โดยโจทก์ว่า อยู่ตำบลเขาทอง ซึ่งเดี๋ยวนี้แยกมาเป็นตำบลเขากะลา จำเลยอ้างว่าอยู่ตำบลเนินมะกอก ปัจจุบันแยกเป็นตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว ถ้าศาลเห็นสมข้างใด ให้ฝ่ายนั้นชนะคดีไว้ที่พิพาททั้งหมด และจำเลยยังติดใจให้ศาลวินิจฉัยในข้อที่โจทก์ฟ้องซ้ำด้วย นอกจากนี้คู่ความสละประเด็นอื่นทั้งหมด

เมื่อได้รายงานของบุคคลทั้ง 6 มาแล้ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ และเชื่อว่าที่พิพาทอยู่ตำบลเนินมะกอกโจทก์ต้องแพ้คดี พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาที่ว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 159/2508 หรือไม่ว่าในคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยพยายามจะบุกรุกเมื่อใด และเมื่อจำเลยยังมิได้บุกรุก ก็ไม่เป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ศาลไม่อาจสั่งให้ได้ เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป ให้ยกฟ้องโจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่า ศาลยังมิได้มีคำพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของใคร และฟ้องโจทก์คดีก่อน จำเลยเพียงแต่พยายามจะบุกรุก บัดนี้ โจทก์มาฟ้องคดีนี้ยืนยันว่าจำเลยบุกรุกแน่นอนเมื่อใดเป็นเนื้อที่เท่าใดแล้วย่อมฟ้องได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ศาลฎีกาวินิจฉัยรายงานของบุคคลทั้ง 6 ตามคำท้าฟังว่าที่พิพาทอยู่ตำบลเขาทองเดิมซึ่งบัดนี้แยกเป็นตำบลเขากะลา สมจริงฝ่ายโจทก์

พิพากษายืน

Share