คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ขออนุญาตฆ่าสุกรจำหน่าย จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะอนุญาตมีเจตนากลั่นแกล้งประวิงเรื่องราวของโจทก์และเพิกเฉยไม่ออกใบอนุญาตให้โดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้ทำให้เกิดเสียหายและเป็นการละเมิด

ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องแล้วเห็นว่าข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ยังไม่พอฟังบังคับคดี จึงสั่งไม่รับฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้รับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป ส่วนค่าขึ้นศาลนั้นเห็นว่าเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงให้คืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาเกิน 15 บาทให้โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา พิจารณาแล้วคดีนี้โจทก์ฟ้องกล่าวชัดว่าจำเลยทั้ง 5มีหน้าที่ต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรจำเลยทั้ง 5 กลับมีเจตนากลั่นแกล้งเพื่อไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริตมีแต่ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงก่อนว่าจะเป็นจริงดังโจทก์ฟ้องหรือไม่

พิพากษายืนเฉพาะค่าขึ้นศาลชั้นต้น ศาลฎีกามีคำสั่งในรายงานแล้ว

Share