คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้นในกรณีฉุกเฉิน ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งอนุญาต จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินเช่นกัน ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ จำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาของศาลชั้นต้นเสีย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267 วรรคสอง โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสี่สำนวนฟ้องขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนการจำนำและอายัดหุ้นบริษัทจำเลย ให้จำเลยลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย
จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนให้การว่า การขายทอดตลาดหุ้นของโจทก์กระทำโดยมิชอบ จำเลยไม่มีหน้าที่โอนหุ้นให้แก่โจทก์ขอให้ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งสี่สำนวนยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้นในกรณีฉุกเฉิน โดยขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนบันทึกจดทะเบียนโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทจำเลยที่ 1 ทั้งสี่สำนวนตามจำนวนหุ้นที่โจทก์ซื้อจากการขายทอดตลาดได้ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2)
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนบันทึกจดทะเบียนโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลยที่ 1ทั้งสี่สำนวนตามจำนวนหุ้นตามฟ้องแต่ละสำนวนไว้เป็นการชั่วคราวก่อนพิพากษา ถ้าจำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนไม่ยอมจดทะเบียน ให้ถือเอาคำสั่งของศาลชั้นต้นแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนโดยให้ถือว่าโจทก์ทั้งสี่สำนวนมีชื่อถือหุ้นตามจำนวนตามฟ้องในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1 ทั้งสี่สำนวน
จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาเป็นกรณีฉุกเฉิน
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวน
จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อน พิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ทั้งสี่สำนวนฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์ทั้งสี่สำนวนยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้นในกรณีฉุกเฉิน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องของโจทก์ จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินเช่นกัน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวน จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นเสีย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 267 วรรคสอง โจทก์ทั้งสี่สำนวนจึงไม่มีสิทธิฎีกา
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ทั้งสี่สำนวน

Share