แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีเหรียนกสาปน์รวมเปนเงิน 91 บาท 54 สตางค์ สำหรับจ่ายเปนค่าจ้างลูกจ้างทำนา และได้มาจากการขายข้าว หยู่ไนหมู่บ้านที่ไม่มีตลาดไม่มีที่แลกสตางค์ ไม่เรียกว่าเกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการไช้จ่ายปรกติ ไม่ถือว่าเปนผู้ค้าเหรียนกสาปน์.
ย่อยาว
เจ้าพนักงานจับเหรีนกสาปน์ได้จากจำเลยชนิดทองแดง ๔๘๒๔ อัน สตางค์ห้า ๓๔๔ อัน สตางค์สิบ ๒๖๑ อัน รวมเปนเงิน ๙๑ บาท ๕๔ สตางค์
ได้ความว่า สตางค์ทั้งหมดที่ถูกจับนี้ จำเลยได้มาจากการที่บุตรของจำเลยขายข้าสวก่อนถูกจับ ๖ วัน ยังไม่ทันไช้จ่ายไป และตามปรกติจำเลยไช้สตางค์จ่ายค่าจ้างไห้ลูกจ้างทำนา ๑๐ คน ๆ ละ ๓๐ สตางค์ต่อ ๑ วัน จำเลยมีนา ๘๐ ไร่และมีบุตร ๘ คน บุตรขายข้าวได้ก็เอาเงินส่งไห้จำเลย ๆ เปนคนชราชาวบ้านนอกซึ่งไม่มีตลาด ไม่มีร้านขายของ ไม่มีที่แลกสตางค์
สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทส
สาลอุธรน์พิพากสายกฟ้องโดยเห็นว่าจำเลยมีสตางค์ไม่เกินสมควนสำหรับปรกติธุระ
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า จำเลยมีครอบครัวไหย่ประกอบการกสิกัม มีลูกจ้างมีความจำเปนต้องแจกจ่ายไช้สตางค์มาก และหยู่ไนหมู่บ้านที่ไม่มีที่แลกสตางค์ จะเรียกว่าจำเลยมีเหรียนกสาปน์ไว้ในครอบครองเปนจำนวนเกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการไช้จ่ายปรกติยังไม่ถนัด จะถือว่าจำเลยเปนผู้ค้าเหรียนกสาปน์ไม่ได้ จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.