คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วัตถุพยานนั้นกฎหมายมิได้บังคับว่าจำเลยต้องตรวจดูจึงจะรับฟังได้ พยานได้ตรวจดูแล้วก็ใช้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง และฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรโดยขับเร็วเกินอัตราในระยะทางที่จะขึ้นสพาน ไม่ได้หยุดหรือชลอความเร็วในเวลารถสวนกัน และขับเลยเส้นกึ่งกลางถนนไปทางขวา เป็นเหตุให้รถชนนายทอง โพธิเอี่ยม ถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป ขอให้ลงโทษและถอนใบอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลฟังว่าจำเลยกระทำความผิดจริง พิพากษากลับให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา ๒๕๒ ซึ่งเป็นบทและกระทงหนัก จำคุก ๓ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๒ ปี และให้ถอนใบอนุญาต
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ขับรถชนนายทองตายโดยความประมาทมีความผิดดังโจทก์ฟ้อง ส่วนฎีกาจำเลยที่ว่า วัตถุพยานที่พบมีคราบโลหิต ผมขน และเส้นด้ายที่ติดอยู่ที่รถ ผู้ชำนาญเอาไปตรวจโดยไม่ให้จำเลยดู ใช้ยันจำเลยไม่ได้ขัดต่อ ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๔๒ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่ารับฟังได้ เพราะได้มีการตรวจพิสูจน์ด้วยผู้ชำนาญ เมื่อตรวจแล้วก็ได้มาเบิกความรับรอง มาตรา ๒๔๒ มิได้บังคับว่าให้เฉพาะแต่จำเลยเท่านั้นตรวจดู พยานตรวจดูก็ใช้ได้ ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share