คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องแย้งบรรยายว่า โจทก์รับเงินไปจากจำเลยจำนวนหนึ่งคิดหักค่าจ้างขนไม้ออกแล้ว โจทก์ต้องคืนเงินให้จำเลยอีก ดังนี้ จำเลยจะนำสืบว่า ได้จ่ายค่าสิ่งของอื่น ๆ แทนโจทก์และขอหักกลบลบหนี้โดยมิได้บรรยายเป็นประเด็นมาในฟ้องแย้ง ย่อมเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ขนไม้ ค่าจ้างต้นละ ๕ บาท โจทก์ขนไม้ครบตามสัญญาเป็นไม้ ๒,๐๙๐ ต้น ค่าจ้าง ๑๐,๔๕๐ บาท หักที่รับล่วงหน้าไป ๑,๐๐๐ บาท จำเลยต้องใช้ให้โจทก์ ๙,๔๕๐ บาท แต่จำเลยไม่จ่ายจึงต้องฟ้อง
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ขนไม้เพียง ๕๗๐ ต้นคิดค่าจ้าง ๒,๘๕๐ บาท โจทก์ขนไม่หมดตามสัญญา จำเลยต้องจ้างนายชิตขน เป็นเหตุให้ต้องจ่ายค่าจ้างเกินไป ๗,๙๑๒ บาท โจทก์ต้องรับผิดชดใช้จำเลย และความจริงโจทก์รับเงินไปจากจำเลย ๓,๙๖๐ บาท หักค่าจ้างที่โจทก์ขนไม้แล้ว โจทก์ต้องคืนเงินให้จำเลยอีก ๑,๑๑๐ บาท รวมเป็นเงินที่โจทก์ต้องให้จำเลย ๙,๐๒๒ บาท จำเลยจึงฟ้องแย้งขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้เงินแก่จำเลย
โจทก์ให้การดังที่ฟ้องและว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบ ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ตามฟ้อง และยกฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์หาใช่เป็นฝ่ายผิดสัญญาขนไม้ไม่ จำเลยเป็นฝ่ายบอกให้โจทก์เลิกขนไม้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างขนไม้ให้โจทก์ตามฟ้อง และที่จำเลยฎีกาขอให้หักหนี้ค่าน้ำมันรถยนต์ ค่าผ่านด่านและค่าพวงมาลัยรถยนต์ที่จำเลยจ่ายเงินแทนโจทก์ไป ๒,๙๖๐ บาทนั้น จำเลยมิได้ตั้งประเด็น เรื่องนี้มาในคำให้การและฟ้องแย้ง การที่จำเลยนำสืบว่า ได้จ่ายค่าสิ่งของและค่าผ่านด่านแทนโจทก์และขอหักกลบลบหนี้ จึงเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลไม่วินิจฉัยให้ พิพากษายืน

Share