แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะที่โจทก์แถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ที่ดินพิพาทมีชื่อ ก. เป็นเจ้าของ แต่การจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทเป็นชื่อ ก. เป็นการโอนให้ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ การโอนดังกล่าวจึงอาจเป็นการโอนโดยมีเจตนาให้ที่ดินพิพาทพ้นจากการบังคับคดีอันจะทำให้โจทก์เสียเปรียบได้ เมื่อยังไม่แจ้งชัดว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอย่างแน่นอน การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปลดเปลื้องความรับผิดโดยไม่ได้รับฟังว่าโจทก์จะคัดค้านหรือไม่ หรือเรียกโจทก์มาไต่สวนให้ได้ความชัดเสียก่อน จึงเป็นการไม่ชอบ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันกู้ (วันที่ 5 กรกฎาคม 2538) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่นับถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 12 พฤศจิกายน 2540) ต้องไม่เกิน 10,575 บาท ตามที่โจทก์ขอกับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1,500 บาท จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงบังคับคดีโดยขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินซึ่งมีชื่อบุตรของจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยึดให้โดยทำหนังสือขอปลดเปลื้องความรับผิดต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 283 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่งสำเนาคำขอปลดเปลื้องความรับผิดแก่โจทก์และนัดไต่สวนคำร้องต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะที่โจทก์แถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 1984 ตำบลชอนม่วง (ดอนดึง) อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษา และแม้ที่ดินพิพาทมีชื่อนางกนกวรรณ์เป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองก็ตาม แต่การจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทมาเป็นชื่อนางกนกวรรณ์เป็นการโอนยกให้ภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ การโอนดังกล่าวจึงอาจเป็นการโอนโดยมีเจตนาให้ที่ดินพิพาทพ้นจากการบังคับคดีอันจะทำให้โจทก์เสียเปรียบก็เป็นได้ เมื่อกรณียังไม่เป็นที่แจ้งชัดว่าที่ดินพิพาทที่โจทก์ขอให้ยึดไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอย่างแน่นอน การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปลดเปลื้องความรับผิดโดยไม่ได้รับฟังว่าโจทก์จะคัดค้านหรือไม่ หรือเรียกโจทก์มาไต่สวนให้ได้ความชัดเสียก่อน จึงเป็นการไม่ชอบ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนให้ได้ความชัดเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่แล้วมีคำสั่งต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ