แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ให้ยืมเงินทดรองเพื่อนำไปซื้อสิ่งของตามหน้าที่ของจำเลย แต่เอาเงินไปใช้เสีย ดังนี้ เป็นความผิดทางอาญาแล้ว เพราะการยืมเงินทดรองของทางราชการหรือเทศบาลหามีลักษณะเหมือนการยืมเงินธรรมดาในระหว่างเอกชนด้วยกันไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลเมืองกระบี่ ทำหน้าที่สมุหบัญชีและพนักงานการไฟฟ้าเทศบาลเมืองกระบี่ด้วยอีกสองตำแหน่ง มีหน้าที่รับเงิน จ่ายเงิน จัดซื้อและรักษาเงินของเทศบาลและการไฟฟ้า จำเลยบังอาจทุจริตยักยอกเอาเงินของเทศบาลและการไฟฟ้าไปหลายครั้ง ต่างกรรม ต่างวาระกัน รวมเป็นเงิน ๒๕,๒๒๓ บาท ๘๕ สตางค์ ปรากฎรายละเอียดดังต่อไปนี้
ก.ข.ค. ฯลฯ
ง.จ. จำเลยยืมเงินทดรองของเทศบาลเมืองกระบี่ไป ๑,๘๐๐ บาท, ๗๗๖ บาท เพื่อนำไปซื้อแบบพิมพ์และเครื่องเขียนแบบพิมพ์ให้การไฟฟ้าและเทศบาลเมืองกระบี่ตามลำดับ อันเป็นการทำตามหน้าที่ของจำเลย ตามระเบียบจำเลยต้องนำใบสำคัญการใช้เงินพร้อมเงินเหลือจ่ายส่งให้เทศบาลภายใน ๑๕ วัน แต่จำเลยทุจริตเบียดบังยักยอกเสีย โดยไม่ซื้อแบบพิมพ์ และไม่ส่งใบสำคัญ
ฉ. จำเลยรับเงิน ๗๑๓ บาท เพื่อไปจ่ายให้สำนักพิมพ์ พ. พิทยาคาร เป็นค่าเครื่องเขียนและแบบพิมพ์ แต่จำเลยยักยอกเสีย
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๓๑ และที่แก้ไข
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อหาฟ้องข้อ ก.ข.ค. ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทุจริตยักยอก ส่วนข้อ ง.จ.ฉ. เป็นความรับผิดทางแพ่ง จะลงโทษฐานยักยอกไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องข้อ ง.จ.ฉ.จริง พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๓๑ ซึ่งมีโทษเบาและเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะจำเลยกระทำผิด จำคุก ๒ ปี
จำเลยฎีกาว่า ไม่มีความผิดตามฟ้องข้อ ง.จ.ฉ. เพราะเรื่องการยืมเงินแล้วไม่ส่งคืนนี้ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยมีว่า ให้ดำเนินการเรียกร้องคืนโดยฟ้องร้องทางแพ่ง
ศาลฎีกาวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ถ้าการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดทางอาญาแล้ว แม้จะเป็นกรณียืมเงินทดรองอย่างกรณีนี้ และแม้จะมีระเบียบของกระทรวงมหาดไทยให้จังหวัดหรือเทศบาลดำเนินการฟ้องร้องเรียกคืนทางแพ่ง ก็หาทำให้ความผิดของจำเลยกลายเป็นไม่ผิดไปไม่ ทั้งนี้เพราะเหตุว่า การยืมเงินทดรองของทางราชการหรือเทศบาลนี้หามีลักาณะเหมือนการยืมเงินธรรมดาในระหว่างเอกชนไม่ และอีกประการหนึ่งระเบียบของกระทรวงมหาดไทยไม่มีลักษณะเป็นกฎหมายที่จะมายกเว้นความผิดทางอาญาแต่ประการใด และที่จริงระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน รักษาเงิน และการตรวจเงินของเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ โดยเฉพาะข้อ ๑๖ (๔) ที่จำเลยกล่าวอ้างมานั้น ก็หาใช่จะมีความจำกัดว่าให้ดำเนินการได้แต่เฉพาะทางแพ่งเท่านั้นไม่ เป็นแต่ให้เจ้าหน้าที่รีบเรียกร้องเงินคืนให้ทันท่วงทีเท่านั้น
เฉพาะข้อเท็จจริง เห็นว่า จำเลยรับเงินไปแล้วไม่ซื้อเครื่องเขียนแบบพิมพ์และชำระให้ร้าน พ.พิทยาคาร ตามฟ้องโจทก์จริง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน