คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยสมคบกันวิ่งราวทรัพย์ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 297,63 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยผิดเพียงฐานสมรู้และแก้โทษเป็นจำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นการแก้บทและแก้กำหนดโทษ จึงเป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันลักสร้อยคอทองคำกับล๊อกเก๊ตราคา 320 บาท ของนางสาวชูชื่น โดยจำเลยที่ 1 ใช้กิริยาฉกฉวยเอาสร้อยซึ่งสรวมอยู่ที่คอพาหนีไปต่อหน้า แล้วกระโดดขึ้นจักรยานสามล้อ ซึ่งจำเลยที่ 2 ขับขี่และเตรียมการคอยที่อยู่แล้ว พาจำเลยที่ 1 หนีไป ฯลฯขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 297, 63 และให้คืนของกลาง

จำเลยที่ 1 รับสารภาพ

จำเลยที่ 2 ปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 297, 63 จำคุกคนละ 3 ปี ลดโทษจำเลยที่ 1 ตาม มาตรา 58 ทวิ และ59 คงเหลือโทษจำคุก 1 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สมรู้จึงพิพากษาแก้ให้ลดโทษจำเลยที่ 2 เหลือโทษจำคุก 2 ปี นอกนั้นคงพิพากษายืน

โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่าจะชี้ขาดว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการยังไม่ถนัดจึงพิพากษายืน

Share