แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่ารถจักรยาน 3 ล้อของโจทก์ เลขที่ 1613 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ทำรถที่เช่าหาย จึงขอให้จำเลยใช้เงิน แม้ศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยที่ 1 รับผิด เพราะทำรถหมายเลข 5387 หาย แต่สัญญามีข้อความว่า ค้ำประกันสำหรับรถหมายเลข 1613 และรถคันนี้มิได้หาย จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด
ย่อยาว
ความว่า โจทก์มีรถจักรยาน ๓ ล้อให้เช่าหลายคัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเช่ารถจักรยาน ๓ ล้อของโจทก์เลขทะเบียนที่ ก.ม.๑๖๑๓ ไป ต่อมาโจทก์ขอแก้เป็นเลขที่ ก.ม.๕๓๘๗ เพราะในสัญญาเขียนผิด และจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ ๑ ได้ทำรถหาย จึงขอให้จำเลยใช้เงิน จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเช่ารถหมายเลขที่ ก.ท.๕๓๘๗ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินตามฟ้อง และยกฟ้องจำเลยที่ ๒
โจทก์ฎีกา ขอให้จำเลยที่ ๒ รับผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ทางพิจารณาปรากฏว่า บางครั้งเมื่อรถที่จำเลยเช่าเสียหายแล้ว และโจทก์มีรถคันอื่นว่าง ผู้เช่าก็ใช้รถคันอื่นแทนก็ดี และศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยที่ ๑ รับผิดเพราะทำรถหมายเลขที่ ๕๓๘๗ หาย แต่ฉะเพาะจำเลยที่ ๒ ผู้ค้ำประกัน โดยสัญญาที่มีข้อความว่า ค้ำประกันสำหรับรถหมายเลขที่ ๑๖๑๓ แลรถคันนี้ก็มิได้หาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญา
พิพากษายืน