คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยว่าพยายามฆ่าคน ศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ต่อมาผู้ที่ถูกจำเลยทำร้ายตายลงโจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา ในระหว่างอายุความอุทธรณ์คดีเรื่องแรกดังนี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ ศาลรับฟ้องคดีหลังไว้พิจารณาพิพากษาได้ ส่วนการนับกำหนดโทษจำเลยจะสั่งให้นับรวมกันกับคดีแรกก็ได้

ย่อยาว

โจทก์เคยฟ้องจำเลยหาว่าใช้ปืนยิง อ.ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนหนหนึ่งแล้วศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว บัดนี้ อ.ตายโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายอีก
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเรื่องนี้เมื่อศาลชั้นต้นมิได้อุทธรณ์ฎีกาเป็นคดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์จะนำคดีมาฟ้องอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๓๙ (๔)
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีเดิมยังไม่ถึงที่สุดเพราะโจทก์ยืนฟ้องคดีนี้ในระหว่างอายุอุทธรณ์จะเรียกว่าฟ้องซ้ำก็ไม่ได้ เพราะผลแห่งการกระทำของจำเลยต่างกันออกไปการกำหนดโทษจำคุกจะสั่งนับรวมกันก็ได้ จึงพิพากษาให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องของโจทก์เพื่อพิจารณาต่อไป
ศาลฎีกาตัดสินว่าครั้งแรกโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตาย ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นภายหลังที่ศาลได้พิพากษาคดีแรกซึ่งเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยเองเป็นเรื่องต่างประเด็นและต่างฐาน ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ความผิดอันเดียวกันตาม ม.๓๙ (๔) ประมวลวิธีพิจารณาอาญาส่วนการนับโทษจำเลยศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบแล้ว พิพากษายืนตาม

Share