คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเป็นลูกเขย ได้เอาปืนของจำเลยซึ่งเป็นพ่อตามายิงเล่น จำเลยต่อว่า ผู้ตายโต้เถียง แล้วยิงปืนมาจากในเรือน 2 นัด นัดหลังไปโดนเสาไม้ซึ่งจำเลยนั่งแอบอยู่ สะเก็ดไม้กระเด็นไปถูกคิ้วจำเลยแตก จำเลยเข้าไปหยิบปืนในครัวมายิงผู้ตายขณะผู้ตายหันหลังลงบันไดเรือน นับได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยต่อเนื่องมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะ จำเลยควรได้รับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนยิงนายธนิตหรือโค้ว ม่วงทั่ง ๑ นัด โดยเจตนาจะฆ่า นายธนิตได้ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายโดยเจตนาจะฆ่าให้ตายจริงตามฟ้อง แต่เมื่อได้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดีโดยตลอดแล้วได้ความว่า ผู้ตายเป็นบุตรเขยจำเลย อาศัยอยู่ร่วมเรือนกับจำเลยซึ่งมีอายุถึง ๗๕ ปีแล้ว เหตุที่จะเกิดคดีนี้ขึ้นก็โดยผู้ตายเอาปืนลูกซองของจำเลยไปยิงเล่น จำเลยต่อว่า ผู้ตายกลับโต้เถียงเพราะเมาสุรา ขาดความเคารพนับถือจำเลยผู้เป็นพ่อตา มิหนำซ้ำกลับเอาปืนยิงออกมาจากในเรือนถึง ๒ นัด ๆ หลังวิถีกระสุนตรงไปทางจำเลยซึ่งแอบเสาอยู่ หากแต่กระสุนไปถูกเสาเรือนเสียก่อน เป็นเหตุให้เสาแตก สะเก็ดไม้กระเด็นไปถูกคิ้วซ้ายจำเลยแตกเลือดไหล ซึ่งถ้ากระสุนไม่ถูกเสาเรือนแล้ว ก็อาจถูกจำเลยเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นับได้ว่าจำเลยได้ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะ จึงได้เข้าไปหยิบปืนของจำเลยในครัวมายิงผู้ตายในขณะผู้ตายหันหลังลงบันไดเรือนถึงแก่ความตาย ซึ่งการกระทำของจำเลยต่อเนื่องกันมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะ จำเลยควรได้รับความปรานีรับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๒ จึงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๒ ปี

Share