แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยดำเนินกิจการค้า ใช้ชื่อว่าเดอะไดอะมอนด์วีฟวิ่งแฟคตอรี่ ซึ่งขณะนี้ได้หยุดดำเนินการค้า จำเลยได้ทำสัญญาซื้อด้ายฝ้ายจากโจทก์ และได้รับด้ายฝ้ายไปจากโจทก์เป็นเงิน 317,871.53 บาท จำเลยได้ออกเช็คชำระหนี้ตามรายการในฟ้อง แต่ไม่มีเงินในธนาคารจ่ายตามเช็ค ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย ตามคำฟ้องของโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับว่าจำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อสินค้าจากโจทก์ ขอให้ชำระหนี้ข้ออ้างของโจทก์ที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นก็คือ จำเลยทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์ โจทก์ได้ส่งสินค้านั้นๆ ให้แก่จำเลยรับไปแล้ว จำเลยจ่ายเช็คหลายฉบับให้โจทก์เป็นค่าสินค้าแต่ปรากฏว่าจำเลยไม่มีเงินในธนาคารจ่ายให้ตามเช็ค โจทก์หาได้มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดในฐานที่ว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วน ผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนนั้นผิดสัญญาซื้อขายกับโจทก์ต่อมาห้างหุ้นส่วนนั้นล้มเลิกไป จำเลยจึงต้องรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะหุ้นส่วนคนหนึ่งไม่ เมื่อข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งในกิจการค้านามสมญาเดอะไดมอนด์วีฟวิ่งแฟคตอรี่ ในการทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์ผู้จัดการของกิจการค้าดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อ จำเลยมิได้ลงชื่อ และลายมือชื่อผู้ออกเช็คทุกฉบับที่โจทก์กล่าวในฟ้องก็เป็นลายมือชื่อของบุคคลอื่นมิใช่ลายมือชื่อจำเลย ศาลย่อมไม่อาจพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องได้ ทั้งกรณีก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไปดำเนินการค้าอยู่ที่ฮ่องกง ใช้ชื่อการค้าว่า เดอะไดอะมอนด์วีฟวิ่ง แฟคตอรี่ ซึ่งขณะนี้ได้หยุดดำเนินการค้าและจำเลยเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จำเลยได้ทำสัญญาซื้อด้ายฝ้ายจากโจทก์ โจทก์ได้ส่งด้ายฝ้ายให้จำเลยรับไปแล้ว คิดเป็นเงิน317,871.53 บาท จำเลยได้ออกเช็คชำระหนี้ตามรายการในฟ้อง แต่ไม่มีเงินในธนาคารจ่ายตามเช็ค ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่เคยซื้อด้ายฝ้ายจากโจทก์และไม่เคยออกเช็คให้โจทก์ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยไว้ว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งในกิจการค้านามสมญา เดอะ ไดอมอนด์ วีฟวิ่งแฟคตอรี่ ในการทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3ผู้จัดการของกิจการค้าดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อ จำเลยมิได้ลงชื่อลายมือชื่อผู้ออกเช็คทุกฉบับที่โจทก์กล่าวในฟ้องก็เป็นลายมือชื่อของนายโย เตา เจ็ก มิใช่ลายมือชื่อจำเลย
โจทก์คงฎีกาเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมายว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังเช่นที่ว่ามานั้นแล้ว จำเลยก็ยังต้องรับผิดในหนี้ที่โจทก์ฟ้องอยู่นั่นเอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมาข้างต้น แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับว่า จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อสินค้าจากโจทก์ ขอให้ชำระหนี้ ข้ออ้างของโจทก์ที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ก็คือ จำเลยทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์ โจทก์ได้ส่งสินค้านั้น ๆ ให้แก่จำเลยรับไปแล้ว จำเลยจ่ายเช็คหลายฉบับให้โจทก์เป็นค่าสินค้า แต่ปรากฏว่าจำเลยไม่มีเงินในธนาคารจ่ายให้ตามเช็ค โจทก์หาได้มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดในฐานที่ว่า จำเลยเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วน ผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนนั้นผิดสัญญาซื้อขายกับโจทก์ ต่อมาห้างหุ้นส่วนนั้นล้มเลิกไป จำเลยจึงต้องรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะหุ้นส่วนคนหนึ่งไม่เมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณามีอยู่ดังกล่าวมา ศาลย่อมไม่อาจพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องได้ อีกทั้งกรณีก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน