แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานตำรวจจราจรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จับจำเลยในข้อหาว่าขับรถรับจ้างรับคนโดยสารเกินจำนวน มีรถยนต์ส่วนบุคคลคันหนึ่งบรรทุกคนวิ่งผ่านไป จำเลยกล่าวดูหมิ่นตำรวจผู้จับจำเลยว่า”รถคันนี้ทำไมไม่จับกุม คนก็แน่นเหมือนกัน หรือจะแกล้งจับเฉพาะผมคนเดียวเท่านั้น จราจรลำพูนไม่ให้ความยุติธรรม” ดังนี้แสดงว่า จำเลยกล่าวโดยตั้งใจเป็นการกล่าวดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ไม่ใช่กล่าวในลักษณะปรับทุกข์ ติชมปรารภ หรือขอความเห็นใจจำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายสิบตำรวจตรีนวล ขันเพ็ชร์ เจ้าพนักงานตำรวจจราจรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้จับกุมจำเลยในข้อหาว่าขับรถรับจ้างรับคนโดยสารเกินจำนวนอันเป็นการกระทำตามหน้าที่และตามวันเวลาดังกล่าวนั้น มีรถบรรทุกคนหนึ่งซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่ใช่รถยนต์รับจ้างได้บรรทุกคนวิ่งผ่านไป จำเลยจึงได้กล่าวด้วยวาจาดูหมิ่นนายสิบตำรวจตรีนวลว่า”รถคันนี้ทำไมไม่จับกุม คนก็แน่นเหมือนกัน หรือจะแกล้งจับเฉพาะผมคนเดียวเท่านั้น จราจรลำพูนไม่ให้ความยุติธรรม” ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 393
จำเลยให้การรับสารภาพว่าฟ้องโจทก์เป็นความจริงทั้งสิ้น แต่จำเลยกล่าวโดยสุจริตใจ เป็นคำกล่าวติชมตามธรรมดา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนั้นแสดงว่าจำเลยกล่าวโดยตั้งใจเป็นการกล่าวดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ยุติธรรมและแกล้งจับจำเลยหาใช่กล่าวในลักษณะปรับทุกข์ ติชม ปรารภ หรือขอความเห็นใจดังที่จำเลยฎีกาไม่
พิพากษายืน