คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อการแข่งขันกีฬาอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของนายจ้างการที่ลูกจ้างไปแข่งขันกีฬาฟุตบอลตาม คำสั่งนายจ้างแล้วประสบอันตรายในขณะแข่งขัน ดังนี้เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง โจทก์จึงมีสิทธิได้ รับค่าทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนพร้อมด้วย ดอกเบี้ย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพิจิตร ระหว่างวันที่ 16 เมษายน 2532 ถึงวันที่7 พฤษภาคม 2532 ได้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างธนาคาร ครั้งที่ 12ประจำปี 2532 นายจ้างโจทก์มีคำสั่งให้โจทก์ไปเล่นกีฬา ซึ่งตามระเบียบของนายจ้างโจทก์ถือว่าเป็นการปฏิบัติงานของนายจ้าง โจทก์ได้ลงแข่งขันกีฬาฟุตบอลครั้งนี้ ในระหว่างการแข่งขันได้ถูกนักกีฬาฝ่ายตรงข้ามใช้เท้าเตะถูกบริเวณเบ้าตาขวา ทำให้เปลือกตาขวาบนแตกเป็นแผลยาวประมาณ 1 นิ้ว และโจทก์ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามคำแหง ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2532 ถึงวันที่ 4พฤษภาคม 2532 โจทก์จึงไม่สามารถปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างได้ โจทก์ใช้สิทธิเรียกเงินทดแทนจากสำนักงานกองทุนเงินทดแทน ปรากฏว่าพนักงานเงินทดแทนวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โจทก์จึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนวินิจฉัยเมื่อวันที่ 27กันยายน 2532 ว่า โจทก์ไม่ได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน โดยเห็นว่าโจทก์ได้รับอันตรายเนื่องจากการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง โจทก์ประสบอันตรายจนไม่สามารถปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 12 วัน ขณะประสบอันตรายโจทก์ได้รับค่าจ้างเดือนละ8,685 บาท โจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามกฎหมายจำนวน 2,084.40บาท ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยและจ่ายเงินทดแทน ที่สั่งว่าโจทก์มิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน และให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนจำนวน 2,084.40 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินต้นดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง เพราะโจทก์เป็นพนักงานในตำแหน่งพนักงานสินเชื่อ 4ลักษณะงานที่ปฏิบัติไม่เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาและเป็นการอาสาเข้าแข่งขันของโจทก์เอง นอกจากนี้กิจการของนายจ้างโจทก์เป็นสถาบันการเงิน มิได้มีวัตถุประสงค์ในการแข่งขันกีฬา คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนจึงชอบด้วยกฎหมาย
วันนัดพิจารณาคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรระเบียบว่าด้วยการแข่งขันกีฬาตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 โจทก์เป็นพนักงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพิจิตร ตำแหน่งพนักงานสินเชื่อมีงานประจำเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อด้านการเงินของธนาคาร ไม่เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา ผู้จัดการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพิจิตร รวมทั้งสำนักงานใหญ่ มีคำสั่งให้โจทก์ไปแข่งขันฟุตบอลกับนักฟุตบอลของธนาคารศรีนคร จำกัด เมื่อวันที่23 เมษายน 2532 โจทก์ประสบอันตรายในขณะเล่นกีฬาฟุตบอลตามฟ้องหากศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างแล้วโจทก์มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนตามฟ้อง แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนตามฟ้อง และให้โจทก์มีสิทธิได้รับค่าทดแทน จากกองทุนเงินทดแทนเป็นเงิน 2,084.40 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าว
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่าโจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างหรือไม่ จำเลยอุทธรณ์ว่าการแข่งขันกีฬามิใช่กิจการในวัตถุประสงค์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรนายจ้างโจทก์ การที่โจทก์ไปแข่งขันกีฬาและประสบอันตราย จึงมิใช่การประสบอันตรายอันเกิดจากการทำงานให้แก่นายจ้างเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2509มาตรา 9 บัญญัติว่า “ธนาคารมีวัตถุประสงค์ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อส่งเสริมอาชีพหรือการดำเนินงานของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร” มาตรา 10 ที่แก้ไขแล้วบัญญัติว่า “ให้ธนาคารมีอำนาจกระทำกิจการภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา 9 อำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง…(13) กระทำกิจการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเนื่องในการจัดให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของธนาคาร” สำหรับการกีฬานั้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีระเบียบฉบับที่ 21 ว่าด้วยการแข่งขันกีฬาของธนาคาร กำหนดไว้ในข้อ 3 ว่า”วัตถุประสงค์ในการแข่งขันกีฬาของธนาคารมีดังต่อไปนี้
(1) เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่การกีฬาให้แพร่หลายไปในหมู่ของพนักงานธนาคารให้สนใจการเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น อันเป็นการเพิ่มพูนสุขภาพพลานามัย ฝึกความมีระเบียบ วินัย รู้แพ้ รู้ชนะ สมานสามัคคีและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
(2) …
(3) เพื่อเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของพนักงานจากการปฏิบัติงานประจำวัน อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของพนักงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
(4) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ภายในและภายนอกของธนาคาร”วัตถุประสงค์ของการแข่งขันกีฬาตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรตามที่กล่าวนั้น ล้วนเป็นการเสริมสร้างทั้งด้านบุคลากรและกิจการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรพ.ศ. 2509 เพื่อให้บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับกิจการที่จะต้องทำตามวัตถุประสงค์และภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ทั้งสิ้น ดังนั้นการแข่งขันกีฬาจึงเป็นกิจการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเนื่องในการจัดให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของธนาคารจึงเป็นกิจการที่อยู่ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 10(13) แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 เมื่อวินิจฉัยว่าการแข่งขันกีฬาอยู่ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของนายจ้างโจทก์ การที่โจทก์ไปแข่งขันกีฬาฟุตบอลตามคำสั่งของนายจ้างแล้วประสบอันตรายในขณะแข่งขันจึงเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง…”
พิพากษายืน.

Share