คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่ผู้ร้อง และสละเจตนาครอบครองที่พิพาทให้ผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา ดังนี้การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลง ผู้ร้องเข้ายึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตน จึงได้สิทธิครอบครองทันทีที่จำเลยสละเจตนาครอบครอง
การโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 นั้น มีผลบังคับกันได้ ไม่ต้องมีแบบอยู่ในตัวการที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนหาทำให้การซื้อขายเป็นโมฆะไม่

ย่อยาว

คดีนี้เนื่องมาจากศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยไม่ชำระ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน 1 แปลงของจำเลยที่ 1 เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ซื้อจากจำเลยที่ 1 ก่อนจำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์ตามสำเนาสัญญาซื้อขายท้ายคำร้อง ผู้ร้องได้รับมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเข้าครอบครองที่ดินตั้งแต่วันทำสัญญาตลอดมา ที่ดินจึงเป็นของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์

โจทก์ให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ครอบครองที่ดินซึ่งโจทก์นำยึดและเป็นผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยไม่เคยขายหรือส่งมอบให้ผู้ร้องครอบครองผู้ร้องมีสิทธิเกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงนี้เฉพาะการเก็บผลลำไย ตอนกิ่ง ตามสำเนาสัญญาซื้อขายผลลำไยท้ายคำให้การ ส่วนสัญญาซื้อขายที่ดินท้ายคำร้องเป็นนิติกรรมอำพรางการซื้อขายผลลำไยมีระยะยาว ระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 มิได้เจตนาจะซื้อขายกันจริงตามสัญญา จึงไม่มีผลใช้บังคับ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จำเลยที่ 1 มอบให้ผู้ร้องเป็นประกันการซื้อขายผลลำไยระยะยาวเท่านั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในปัญหาเบื้องต้นว่านิติกรรมซื้อขายที่พิพาทเป็นโมฆะ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สิทธิครอบครองจึงยังคงเป็นของจำเลยที่ 1 อยู่

ศาลชั้นต้นสั่งให้ปล่อยทรัพย์พิพาทแก่ผู้ร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ได้ขายที่พิพาทให้ผู้ร้องและสละเจตนาครอบครองที่พิพาทให้ผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา การครอบครองของจำเลยที่ 1 ย่อมสิ้นสุดลง ผู้ร้องได้เข้ายึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนจึงได้สิทธิครอบครองทันทีที่จำเลยที่ 1 สละเจตนาครอบครอง ทั้งเมื่อเป็นการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 แล้ว ก็มีผลบังคับกันได้ ไม่ต้องมีแบบอยู่ในตัว ฉะนั้นการที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนก็หาทำให้การซื้อขายรายนี้เป็นโมฆะไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดที่พิพาท

พิพากษายืน

Share