แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่สืบก่อนโดยวิทยุมาแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด 1 วัน ความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน ตัวโจทก์มาศาลในตอนสายวันนั้นหลังจากศาลสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วแถลงว่ารอทนายอยู่ที่บ้าน แม้การขอเลื่อนของทนายทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็แสดงว่า ทนายและโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวนนี้ศาลสั่งให้พิจารณาพิพากษารวมกัน คดีแรกโจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นพี่ชายนายโทนซึ่งตายไปเมื่อเดือน ๙ ปี ๒๔๙๙ นายโทนมีนา ๑ แปลง ตามแผนที่ท้ายฟ้อง โจทก์เป็นทายาทควรได้รับมรดกนาแปลงนี้จำเลยแต่งงานกับนายโทนเมื่อ ๑๘ ปี มาแล้วแต่มิได้จดทะเบียนสมรส จึงเป็นภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกนายโทน แต่จำเลยไปร้องต่ออำเภอขอรับมรดกที่แปลงนี้ โจทก์คัดค้านไว้แล้ว ขอให้แสดงว่านาพิพาทเป็นมรดกนายโทนตกทอดแก่โจทก์ผู้เป็นทายาท ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่าได้สมรสกับนายโทนเมื่อปี ๒๔๘๑ อยู่กินกันตลอดมาจนนายโทนตายมีบุตรด้วยกัน ๖ คน เมื่อ ๒๐ ม.ค.๘๒ จำเลยกับนายโทนซื้อนาที่ไว้จากนางอิ้มแล้วครอบครองร่วมกันตลอดมา เพิ่งขายให้นายแย้ม เมื่อ มี.ค.๙๙ ก่อนนายโทนตาย ที่พิพาทจึงไม่ใช่มรดกนายโทน
คดีหลังโจทก์ฟ้องว่าที่ดินตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ทั้งสอง ได้ให้นายโทนอาศัยทำกินและครอบครองแทน เมื่อนายโทนตายแล้วจำเลยไปร้องต่ออำเภอขอรับมรดกนาแปลงนี้ โจทก์คัดค้านไว้แล้วขอให้แสดงว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า นาพิพาทคดีนี้เป็นของนายโทนกับจำเลยไม่ใช่ของโจทก์ นายโทนไม่ได้ครอบครองแทนโจทก์
ศาลนัดสืบพยานโจทก์ก่อนในวันที่ ๑๖ ก.พ. ๒๕๐๐ ถึงวันนัด โจทก์ ทนายและพยานไม่มาศาล ๆ ได้รับใบรับวิทยุในราชการตำรวจความว่า ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน จำเลยและทนายแถลงว่าไม่ควรให้เลื่อน ขอให้สั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และให้สืบพยานจำเลยฝ่ายเดียว
ศาลกาฬสินธุ์เห็นว่า การขอเลื่อนทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายและเหตุที่ขอไม่พอที่จะให้เลื่อน ทั้งแสดงว่าโจทก์ไม่เอาใจใส่ในการดำเนินคดีจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และเห็นว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณา ให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวโดยนัดสืบพยานจำเลยและให้แจ้งวันนัดให้โจทก์ทราบ
ในวันเดียวกันนั้นเวลา ๑๑.๓๐ น. นายสิงห์โจทก์มาศาลยื่นคำแถลงว่า รอทนายอยู่ที่บ้านได้ทราบว่าทนายได้วิทยุมาทางศาลขอเลื่อนคดีศาลสั่งว่า รวม ต่อมา ๖ มี.ค.๒๕๐๐ โจทก์ยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งศาลว่า การที่ขอเลื่อนเพราะไม่มีรถยนต์ที่จะโดยสารมาให้ทัน เป็นการขอเลื่อนครั้งแรก ยังฟังไม่ได้ว่าจงใจขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งคำแถลงว่ารวม
ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยฝ่ายเดียวแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เลื่อนคดีไปตามขอ และพยานจำเลยไม่น่าเชื่อ ขอให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ หรือพิพากษาให้นาพิพาทตกเป็นของโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา หากเป็นความจำเป็นที่ทนายโจทก์ไม่สามารถมาศาลตามกำหนด สมควรให้พิจารณาใหม่ตาม วิ.แพ่ง ม.๒๐๕ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาคดีนี้ใหม่ตาม วิ.แพ่งมาตรา ๒๐๕ แล้วพิพากษา ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายชั้นอุทธรณ์เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ก่อนนัดนัดสืบพยานโจทก์ ๑ วัน ทนายโจทก์ได้วิทยุมาขอเลื่อนคดีโดยบอกว่ามาศาลไม่ทันตามกำหนดเพราะรถไม่มีโดยสารในวันนัด เมื่อศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดแล้ว ตัวโจทก์มาศาลแถลงเหตุที่มาศาลล่าช้ากว่ากำหนดให้ศาลทราบ แม้การขอเลื่อนทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็แสดงว่าทนายและโจทก์มิได้จงใจจะขาดนัด หากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้ จึงเห็นว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับไป